April 25, 2019 10:19
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัย อาจส่งผลให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ค่ะ อย่างไรก็ตาม ในกรณีนี้ เนื่องจากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์โดยป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ จึงถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้เช่นกันนะคะ
เพราะการหลั่งนอก โดยทั่วไปถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ (ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางอนามัยถูกต้องและไม่รั่วซึมจะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%) และแม้จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินเร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% นะคะ
ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ ดังนั้น หากถึงรอบประจำเดือนปกติของผู้ถามแล้วแต่ยังไม่มีประจำเดือนมา และเกินกำหนดมาหลายวันแล้ว ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
หรืออาจไปตรวจการตั้งครรภ์ทางเลือดที่โรงพยาบาลหรือคลินิกสูตินรีเวชที่มีบริการนี้ ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 9 วันก็ได้ค่ะ
..
..
..
แต่ถ้ายังไม่ถึงรอบประจำเดือนปกติของผู้ถาม แต่ผู้ถามคิดว่าจะต้องมีประจำเดือนมาภายใน 7 วันหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน นั่นเป็นความเข้าใจที่ผิดนะคะ ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือน จึงไม่จำเป็นว่าผู้ใช้จะต้องมีประจำเดือนมาใน 7 วันหลังรับประทานค่ะ เลือดที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน เป็นเพียงหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากยาเท่านั้น อาจมีหรือไม่มีเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ
หากเป็นความเข้าใจผิดตามที่กล่าวมานี้ แนะนำให้รอดูไปก่อนว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมที่เคยมีหรือไม่ หรือตรวจการตั้งครรภ์ตามที่แนะนำไปข้างต้นเพื่อความชัดเจนนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
โดยปกติ รอบเดือนของเรา จะคลาดเคลื่อนอยู่ระหว่าง 21-35 วัน (บวกลบเจ็ดวันจากรอบก่อนๆ ) อยู่แล้วครับ ถ้ายังอยู่ในช่วงนี้ ก็ยังถือว่าปกติครับ แต่ถ้ามีความเครียด วิตกกังวล ซึ่งเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป ก็อาจทำให้คลาดเคลื่อนไปได้อีกครับ
ในกรณีประจำเดือนไม่มาตามปกติ หรือ ประจำเดือนขาดไป
-ถ้าคนไข้มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน การใช้ถุงยางอนามัย หรือการคุมกำเนิดวิธีอื่นๆไม่ถูกต้อง หรือ ผิดพลาด ก็อาจตั้งครรภ์ได้ เบื้องต้นแนะนำว่า ให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะครับ โดยการตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะด้วยตนเอง สามารถตรวจได้ตั้งแต่ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
(การตรวจนั้น ต้องตรวจถุกต้องตามคำแนะนำและระยะเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับจึงจะเชื่อถือได้ครับ)
-ถ้าคนไข้ไม่มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ เลยหรือตรวจการตั้งครรภ์แล้วไม่พบการตั้งครรภ์. ปัจจัยที่จะทำให้ประจำเดือนที่เคยมา แล้วไม่มา หรือผิดปกติ มีหลายอย่างครับ ตัวอย่าง เช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ
ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ประจำเดือนหนูมาช้าไป7วันค่ะ+กับตอนนี้หนูเครียดเรื่องเรียนด้วยว่าจะส่งงานทันมั่ย ช่วงสงกานหนูมีอะไรกับแฟนด้วยแต่หลั่งนอกค่ะทานยาคุมฉุกเฉิน แล้วตอนนี้ประจำเดือนมาช้าไป7วันเลยไผซื้อยาสตรีเพ็ญภาคมาทานได้1วันแต่ก็ยังไม่มาสักที ตอนนี้มีอาการคลื่นไส้ด้วยค่ะหนูจะท้องมั่ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)