สวัสดีค่ะคุณหมอ ช่วงนี้ใครขัดใจหรือพูดอะไรไม่เข้าหูจะรู้สึกเฟล โมโห รำคาญ นิ่งเฉยและจะปวดบริเวณอกแบบบอกไม่ถูก ไม่มีความสุขรำคาญสิ่งรอบข้างใครทำอะไรจะรู้สึกว่าเสียงดังแล้วรำคาญมากใครพูดอะไรจะไม่ค่อยฟังยึดติดแต่ตัวเอง พยายามหาความสุขแต่ก็สุขไม่เต็ม เวลาคนในครอบครัวพยายามเปิดใจถามเราว่าเรารู้สึกยังไงเป็นอะไรโกรธอะไรพวกเขาเราจะตอบไม่ได้ ได้แต่นั่งร้องไห้แล้วไม่อยากพูด หนูเป็นอะไรหรอคะคุณหมอ

สวัสดีครับ
การที่มีอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป หงุดหงิดรำคาญง่ายขึ้น รู้สึกไม่มีความสุข ต้องมาร้องไห้อยู่บ่อยๆนั้นอาจเป็นอาการที่เกิดจากโรคทางอารมณ์ได้หลายอย่างครับ เช่น
- อารมณ์ที่แปรปรวนตามรอบเดือน
- มีการปรับตัวกับความเครียดที่ผิดปกติ
- โรคซึมเศร้า
- โรคอารมณ์สองขั้ว

ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ

http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html

ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น

แต่ไม่ว่าสุดท้ายแลเวจะทำแบบทดสอบออกมาได้คะแนนที่สูงจนเข้าข่ายเป็นโรคซึมเศร้าหรือไม่ การที่มีอารมณ์ผิดปกติในลักษณะนี้จนเริ่มส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตแล้วก็ถือเป็นข้อบ่งชี้หนึ่งที่จะไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการได้ครับ

ในกรณีนี้หมออยากให้คุณไปลองไปปรึกษาจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

และในระหว่างที่ยังไม่ได้ไปพบแพทย์นั้นถ้าหากต้องการคำแนะนำในเบื้องต้นเพิ่มเติมก่อน ก็สามารถโทรไปสอบถามที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ

อาการดังกล่าวอาจเป็นความผิดปกติทางด้านอารมณ์ ซึ่งอาจบ่งถึงภาวะซึมเศร้าก้เป็นไปได้ค่ะ

ซึมเศร้า เกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ

อาการหลักของซึมเศร้า ได้แก่
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ /หลับมาก
4.เบื่ออาหาร/ทานได้มาก
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดรำคายใจ
8.รู้สึกไร้ค่า น้อยใจง่าย
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
ซึ่งหากมีอาการเกิน 7 ข้อ เป็นต่อเนื่องทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์ อาจมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ค่ะ

การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ร่วมกับการทำจิตบำบัด ซึ่งยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ช่วยให้ควบคุมความคิด อารมณ์ และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม การทำจิตบำบัดจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ ช่วยให้ปรับตัวได้ง่ายขึ้นและสามารถดำเนินชีวิตได้เป็นปกติ

ดังนั้นในกรณีดังกล่าว แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการอีกครั้ง วินิจฉัยให้แน่ชัดแล้วรับการรักษาตามแนวทางจะช่วยให้อาการดีขึ้นนะคะ ในระหว่างรักษาควรทานยาอย่างสม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงสารกระตุ้น/สารเสพติด และควรไปพบแพทย์ตามนัดจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นค่ะ

สวัสดีครับ

จากที่เล่ามาก็มีอาการตรงกับเรื่องภาวะโรคซึมเศร้าเหมือนอย่างที่คุณหมอและพี่นักจิตวิทยาได้ให้ข้อมูลไว้นะครับ ซึ่งบางครั้งความรู้สึกเหล่านี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายปัจจับร่วมกัน และการที่คนในครอบครัวพยายามพูดเปิดใจ อาจจะไม่ใช่การช่วยเหลือที่ถูกต้องสำหรับคุณ ซ้ำยังเพิ่มความกดดันให้คุณเข้าไปอีกใช่หรือเปล่าครับ โดยตามภาวะเหล่านี้สามารถทำให้หายไปหรือบรรเทาให้ดีขึ้นได้นะครับ โดยคุณอาจจะเริ่มจากการเข้าพบกับจิตแพทย์และนักจิตวิทยาเพื่อรับการประเมินสภาพจิตใจ และรับการช่วยเหลือที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งอาจจะเป็นการทานยา หรือการเข้ารับคำปรึกษา ที่จะทำให้คุณได้ค่อยๆ สำรวจจิตใจตนเอง โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยนำทางไปให้นะครับ ซึ่งการรับการช่วยเหลือตรงนี้ผมคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับตัวคุณในการรับมือกับเรื่องราวตอนนี้ครับ

นอกจากการเข้าพบผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผมขอเพิ่มเติมว่า คุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาที่ตนเองจะรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือรู้สึกสนุกผ่อนคลายให้ และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้อารมณ์เศร้าลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งการดูแลตนเองควบคู่กันไปด้วยกับการรับการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะเป็นการฝึกเพื่อให้คุณสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้ในระยะยาวครับ

สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งแต่ยังไม่ต้องการที่จะพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลานะครับ