August 28, 2019 22:31
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
เเนะนำให้หาเวลาไปตรวจภายในดูลักษณะของรอยโรคนะครับ ที่แผนกสูตินรีเวช
อาการคันช่องคลอด สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ
เช่น ถ้ามีเยื่อบุบริเวณนั้นบวมแดง มีตุ่ม ก็เป็นสาเหตุของอาการคันได้ เช่น ตุ่มจากผื่นเเพ้ หรือติดเชื้อ เช่น ตัวโลน เป็นต้น
ถ้าเป็นผื่นเเดงขุยๆชอบใส่กางเกงอับชื้น น่าจะเป็นเชื้อราได้ครับ
หรือถ้ามีตกขาวปริมาณที่มากขึ้นร่วมด้วย อาจเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด ร่วมกับการติดเชื้อที่อวัยวะเพศด้านนอกด้วย ทั้งนี้เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด สามารถเกิดได้จากทั้ง เชื้อรา แบคทีเรีย
เช่น
การติดเชื้อราในช่องคลอด
จะมีตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ติดอยู่กับผนังช่องคลอดได้ ร่วมกับช่องคลอดเเดง คันช่องคลอด มีปวดเเสบได้
หรือโรคติดเชื้อในช่องคลอดชนิดหนึ่ง คือ Bacterial vaginosisครับ (เเบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล เชื้อชื่อ Gardernella vaginallis จึงเเบ่งตัวมากขึ้น)
อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่นอับ (musty) หรือคาวปลา (fishy) มักมีกลิ่นรุนแรงภายหลังการร่วมเพศ ซึ่งเกิดจากการทําปฏิกิริยากับ อสุจิ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้ว
ปลดปล่อยกลิ่น ออกมา
ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas
..........
ถ้าสงสัยผื่นเชื้อรา ลองทาพวกยาฆ่าเชื้อรา เช่น Clotrimazoleครีม Zalainครีม เป็นต้นครับ
การรักษาถ้าสงสัยเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole หรือ ถ้าเป็นเชื้อรา ก็เหน็บยาพวก Clotrimazole ครับ อาจปรึกษาเภสัชกรซื้อยามาก่อนได้ครับ
เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ
..........
ให้งดการสวนล้างช่องคลอด งดใส่กางเกงคับเเน่น อับชื้นครับ
หรือถ้าผื่นเเพ้ผิวหนัง เบื้องต้นทานยาลดอาการคัน เช่น CPM Atarax (กินเเล้วง่วงได้) หรือ Cetirizine Loratadine เป็นต้นครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ทาซีม่าครีมได้ไหมคะอาการนี้
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
หากทีอาการคันอวัยวะเพศ อาจมาจากหลายสาเหตุ ตัวอย่างเช่น
-ช่องคลอดแห้ง
-สุขอนามัยไม่ดี
-มีการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรียโรคติดต่อทางเพศสัมพันธฺ เช่น หูดหงอนไก่ เริม เป็นต้น
ซึ่งโรคทางเพศสัมพันธฺส่วนใหญ่ จะมีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเหลือง ตกขาวสีเขียว เป็นต้น แต่บางโรคถ้าอาการไม่มาก อาจเห็นไม่ชัดเจนครับ
แนะนำว่า หากคันมาก ควรไปตรวจร่างกายและตรวจภายในเพิ่ทเติมนะครับบางโรคอาจจะอยู่ลึก เช่น ปากมดลูก ทำให้คนไข้มองไม่เห็นได้ครับ
การรักษา จะต้องใช้ข้อมูลจากการตรวจร่างกาย เพื่อรักษาที่สาเหตุตามความเหมาะสมครับ
อนึ่ว สิ่งที่แนะนำเป็นพื้นฐานเลย คือ การดูแลสุขอนามัยที่ดีของบริเวณอวัยวะเพศครับ ได้แก่ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอครับ
-เวลาล้าง ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือการสวนล้างช่องคลอดใดๆ หรือใช้สบู่อ่อนๆล้างรอบนอกอวัยวะเพศก็เพียงพอ
-ไม่แนะนำให้สวนล้างบ่อยๆ เนื่องจากช่องคลอดจะเสียสมดุลแบคทีเรียที่มีอยู่ตามปกติ และจะเป็นเชื้อราได้ง่าย
- ทำความสะอาดหลังปัสสาวะและหลังจากมีเพศสัมพันธ์
-เวลาเช็ดอวัยวะเพศหลังขับถ่าย ควรเช็ดจากหน้าไปหลัง
-กางเกงในไม่ควรคับ และแห้งไม่อับชื้น
- มีคู่นอนแค่คนเดียว และถ้าหากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ควรป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
คันในช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
-การติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อปรสิต
-ช่องคลอดอักเสบ
-การแพ้ต่างๆ เช่น แป้ง, สบู่, น้ำยาสวนล้างช่องคลอด เป็นต้น
เบื้องต้นแนะนำ งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น และลองเปลี่ยนสบู่ หรือแป้งที่ใช้ ดูครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน เพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คันตรงที่อวัยยะวะภายนอกเป็นผื่นเดงๆบางทีก็มีตุ่มขาวๆตรงขาหนีบเเล้วก็ตรงจิมิ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)