สวัสดีคะคุณหมอ ขออนุญาตปรึกษาคะ คือ ประจำเดือนหนูเพิ่งหมดไปวันที่ 5 พ.ย. คะ และมีอะไรกับแฟน วันที่ 6 พ.ย. หลั่งใน จึงทานยาคุมฉุกเฉินไป หลังจากนั้นไม่เกิน 15 นาที โดยทาน 2 เม็ดพร้อมกัน ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนคะ อาการที่มีหลังจากนั้นคือ เมื่อวันที่ 12 พ.ย. มีเลือดออกซิบๆจากช่องคลอดเล็กน้อยคะ ประมาณว่าถ้าใช้กระดาษทิชชูซับจะเห็นคะ ต่อมา วันที่ 13 พ.ย. มีเลือดออกเพิ่มขึ้น แต่เป็นสีน้ำตาลคะ และ 14 พ.ย.(วันนี้) มีเลือดออกเพิ่มขึ้นอีก เป็นสีน้ำตาลเข้มกว่าเดิมเล็กน้อยคะ อยากทราบว่า เลือดที่ออกมาใช่ประจำเดือนหรือไม่? หากไม่ใช่ประจำเดือน เลือดที่ออกมาเกิดจากสาเหตุอะไร? อาการที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ถือว่าปกติหรือผิดปกติคะ? ขอบคุณคะ🙏

หากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ โดยประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยา อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ค่ะ โดยจะเป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย และอาจพบอยู่เพียงแค่วันเดียว หรือเป็นอยู่นาน 2 - 4 วันก็ได้ค่ะ

ดังนั้น หากไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ตกขาวผิดปกติ, มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง, แสบหรือคันช่องคลอด หรือปวดท้องรุนแรง เลือดกะปริบกะปรอยที่พบก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินนั่นเองนะคะ

อย่างไรก็ตาม หากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย หรือมีเลือดกะปริบกะปรอยมานานผิดปกติ ก็ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ

และถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

สวัสดีครับ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปประมาณ 1 สัปดาห์อาจมีผลข้างเคียงทำให้มีอาการเลือดออกกระปริดกระปรอยทางช่องคลอดได้ครับ ซึ่งอาการนี้ก็เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้เป็นปกติและไม่ได้มีอันตราย รวมถึงไม่ได้เป็นการที่บ่งบอกถึงการตั้วครรภ์ครับ

หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วประจำเดือนจะยังคงมาตามกำหนดตามปกติอยู่ ในตอนนี้จึงสามารถรอสังเกตประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากถึงกำหนดแล้วประจำเดือนยังไม่มาหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ขออภัยที่ตอบช้าค่ะ

หากเป็นเพียงแค่เลือดกะปริบกะปรอย (จากข้อมูลที่ว่าใช้เพียง "แผ่นอนามัย" ไม่ได้เปียกชุ่ม "ผ้าอนามัย") และไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ จึงยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์นะคะ

การตรวจการตั้งครรภ์ในขณะที่มีเลือดกะปริบกะปรอย สามารถทำได้ค่ะ แต่ในกรณีของผู้ถาม ระยะเวลาในช่วงนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะตรวจนะคะ

เพราะหากใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ก็ควรตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน ดังนั้น ถ้าวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดของผู้ถามคือ 6 พฤศจิกายน ก็ควรตรวจหลังตื่นนอนของเช้าวันที่ 20 พฤศจิกายนค่ะ

จึงแนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ แต่ถ้ามีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย หรือมีความกังวลใจมาก ก็สามารถไปตรวจเพิ่มเติม หรือตรวจการตั้งครรภ์ทางเลือด ที่โรงพยาบาล หรือคลินิกสูตินรีเวชใกล้บ้านที่มีบริการดังกล่าว ในวันพรุ่งนี้ได้ค่ะ