แม่หนูมีอาการบวมที่ขา ตอนนี้บวมหนักมาก ปกติแล้วก่อนจะบวมจะมีรอยแดงเกิดขึ้นและบวมเป่งขึ้นซึ่งเกิดขึ้นเป็นจุดๆ เวลาจับจะรู้สึกว่าบริเวณนั้นอุ่นๆ แต่ครั้งนี้เกิดการบวมทั้งขาจนถึงเท้า

อาการขาบวมแดงเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น มีการติดเชื้อใต้ผิวหนัง อาการของหลอดเลือดอุดตัน
อาจจะบอกได้ยากการเล่าอาการเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัยการตรวจร่างกายร่วมด้วย
แต่โรคที่เป็นสาเหตุที่ยกตัวอย่างมาเป็นภาวะที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ครับ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุนะครับ
จะได้ให้การรักษาที่ถูกต้องครับ

อาการผิวหนังปวดบวมแดงร้อน ถ้าบวมลามเร็วมาก ต้องระวังการติดเชื้ออักเสบที่ผิวหนังนะคะ อาจเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนัง (cellulitis) มักจะมีไข้ร่วมด้วย ผู้ป่วยจะปวด ลักษณะของผิวที่อักเสบจะเป็นสีแดงบวมมาก และลามไปตามผิวหนังทั่วๆได้ค่ะ ต้องรักษาด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดดำ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลนะคะ

หากปล่อยไว้อาจมีการติดเชื้อรุนแรงขึ้นและลุกลามมากขึ้น มีตุ่มห้อเลือดขึ้นที่ผิวหนัง มีเนื้อตายเป็นสีดำๆ ซึ่งเป็นอาการของการติดเชื้อลึกไปถึงของชั้นกล้ามเนื้อและเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (necrotizing fasciitis) โรคนี้ต้องได้รับการผ่าตัด และให้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วยค่ะ

แนะนำให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล ถ้าเป็นรุนแรงมากอาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ถ้าผู้ป่วยมีโรคประจำตัว เช่นเบาหวาน เชื้อแบคทีเรียจะลุกลามเร็วมากค่ะ

ไม่ทราบเป็นมากี่วันคะ ถ้าบวมลามเร็วขึ้น ต้องระวังการติดเชื้อแบคทีเรีย

แต่ถ้าค่อยๆเป็น ค่อยๆบวมขึ้น ถ้าเป็นข้างเดียว จะนึกถึงกลุ่มโรคหลอดเลือดดำอุดตัน กรณีนี้สามารถรอได้ ถ้าไม่ได้มีอาการอย่างอื่นเช่น เหนื่อย ไปพบแพทย์พรุ่งนี้ได้

ถ้าบวม 2 ข้าง ค่อยๆเป็น มีลักษณะบวมกดบุ๋ม มีได้หลายสาเหตุ เช่น ยาประจำตัวกลุ่มยาลดความดันโลหิตสูง เช่น amlodipine
ต้องดูประวัติการใช้ยา หรือมีอาการของโรคหัวใจเช่น มีอาการเหนื่อยร่วมด้วย หรือเกิดการขาดโปรตีนก็ทำให้ขาบวมได้ค่ะ กลุ่มนี้คนไข้มักจะมีประวัติมีโรคประจำตัวมาก่อนค่ะ

ทั้งนี้ การวินิจฉัยต้องมีการซักประวัติและตรวจร่างกายอย่างละเอียดค่ะ ถ้าไม่ได้เป็นกรณีติดเชื้อที่เป็นภาวะเร่งด่วน สามารถรอได้ และไปพบแพทย์วันถัดไปได้ค่ะ แต่ถ้าอาการคล้ายการติดเชื้อผิวหนังที่กล่าวไป อาการบวมลามเร็วมากขึ้น แนะนำให้รีบไปโรงพยาบาลนะคะ

ถเาไม่มั่นใจ ถ่ายรูปขาขอวคุณแม่ แนบไฟล์ส่งมาให้หมอช่วยดูได้ค่ะ

อาการติดเชื้อที่ใต้ผิวหนังเป็นโรคเป็นแล้วสามารถกลับเป็นซ้ำได้ครับ และยิ่งมีอาการบวมแดงเร็วยิ่งต้องระวังว่าการติดเชื้อจะลุกลามไปในเนื้อส่วนที่ลึกขึ้น หรือลุกลามเข้ากระแสเลือดได้ครับ
รวมถึงยังอาจเป็นโรคอื่นที่ไม่ใช่การติดใต้ผิวหนังก็ได้ เนื่องจากดูอาการลุกลามเร็วมาก
ภาวะนี้ถือว่าเป็นภาวะที่ต้องให้การรักษาค่อนข้างเร่งด่วนครับ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ภูมคุ้มกันและระบบต่างๆในร่างกายไม่ได้แข็งแรงเท่าคนหนุ่มสาวแล้ว ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นเบาหวานแล้วโรคถึงจะลุกลามเร็วครับ
แนะนำว่าควรรีบพาไปโรงพยาบาลครับ ถ้าเป็นการติดเชื้อจริงจะได้ให้ยาฆ่าเชื้อ

ดูจากรูปแล้วเป็นอาการอักเสบเฉพาะที่ที่บริเวณตาตุ่มครับ คงไม่ได้น่ากลัวถึงขั้นว่าจะติดเชื้อลุกลามท้ังขาแบบที่เข้าใจในตอนแรกครับ
และจากคำบอกเล่าที่ว่าอาการเป็นมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนที่แล้ว จึงคิดว่าไม่ใช่กรณีที่เร่งด่วนจนต้องไปรักษาทันทีในตอนนี้ครับ อาจรอไปพบแพทย์พรุ่งนี้เช้าได้

แต่ที่สังเกตเห็นจากรูปอีกอย่างคือขาบวมค่อนข้างมากครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นแค่ขาเดียวหรือเป็นทั้ง 2 ขา
หากเป็นแค่ขาเดียว ก็อาจเกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดดำที่ขา หรือการอุดตันของทางเดินน้ำเหลืองได้ครับ
แต่ถ้ามีอาการบวมทั้ง 2 ขา คงต้องย้อนกลับไปดูครับว่ามีโรคประจำตัวอะไรบ้าง เช่น โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ ซึ่งทำให้เกิดภาวะน้ำเกินในร่างกายหรือมีระดับโปรตีนในเลือดต่ำ จนมีอาการขาบวมตามมาได้ครับ

อย่างไรก็ตามแนะนำว่าจากอาการทั้งหมดนี้ควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์นะครับ เนื่องจากภาวะที่มีขาบวมไม่ใช่ภาวะปกติ เป็นอาการที่ควรได้รับการรักษาครับ

ลักษณะขาที่บวมไม่ค่อยเหมือนการติดเชื้อที่ผิวหนัง ดูไม่น่ารุนแรงค่ะ
แต่ตรงที่แดงบ่งบอกถึงมีการอักเสบบริเวณนั้น หากขยับข้อเท้าไม่ได้ อาการเป็นๆหายๆ ที่พบบ่อย อาจจะนึกถึงโรคเกาต์ได้ค่ะซึ่งมักจะปวดและบวมตามข้อใหญ่ๆ ข้อเท้าก็เป็นได้ ผลเลือดอาจพบกรดยูริคขึ้นสูง การอักเสบจากข้ออาจจะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณรอบๆมีการบวมได้

แต่ถ้าเดินได้ดีปกติ งอข้อเท้า ลงน้ำหนักได้ อาการบวมเป็นที่ขาข้างเดียว ให้ระวังโรคหลอดเลือดดำอุดตันค่ะ ตามที่ได้อธิบายมา แนะนำไปตรวจอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลนะคะ สามารถรอพรุ่งนี้ได้ค่ะ