April 24, 2018 09:35
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
จริงๆการรักษาโรคริดสีดวงต้องดูด้วยว่าเป็นระยะไหน ถ้าเป็นระยะแรกๆสามารถรักษาโดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงคือ ไม่เบ่งในขณะถ่าย ดังนั้นต้องหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดท้องผูกเรื้อรัง โดยการกินอาหารที่มีกากใยอาหารสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ไม่เครียด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย ไม่กลั้นอุจจาระ ควรอุจจาระให้เป็นเวลา และใช้วิธีแช่ก้นในน้ำอุ่น และใช้ยาต่างๆตามอาการ เช่นแก้ปวดถ้ามีปวดร่วมด้วย ยาเหน็บทวารลดบวม และถ้ารักษาด้วยวิธีดังกล่าวไม่ได้ผลหรือแพทย์พิจารณาแล้วว่าเป็นริดสีดวงขั้นรุนแรง แพทย์อาจพิจารณาใช้จี้ไฟฟ้า หรือฉีดยาให้ก้อนยุบ หรือผูกก้อน หรือผ่าตัดค่ะ
สำหรับอาการของลำไส้อักเสบคือปวดบริเวณที่ท้องหรือลำไส้ มีท้องผูก มีถ่ายเหลวปนเลือด สำหรับโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังจะรักษาให้อาการคงตัวเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคลำไส้อักเสบจริงควรไปติดตามผลการรักษากับแพทย์เจ้าของไข้
ส่วนอาการแสบกลางหน้าอกโดยเฉพาะหลังกินข้าวอิ่มอาจคิดถึงโรคกรดไหลย้อน นอกจากนี้อาจมีอาการจุกเสียดแน่น เรอบ่อย คลื่นไส้ มีน้ำรสเปรี้ยวย้อนขึ้นมาในคอ สำหรับโรคกรดไหลย้อนสามารถดูแลและป้องกันตนเองได้โดยทานอาหารมื้อเล็กๆ ไม่ทานมากจนเกินไปเพราะจะทำให้กระเพราะหลั่งกรดได้มาก ไม่รีบทานจนเกินไป พยายามเคี้ยวให้ละเอียด ไม่ทานอาหารที่เป็นกรด เช่นน้ำอัดลม อาหารหรือผลไม้เปรี้ยว ของทอดมัน เครื่องดื่มคาเฟอีน แอลกอฮอล์ อาหารรสจัด ไม่ควรนอนหลังทานอาหารทันที ไม่สูบบุหรี่ นอนหมอนสูง ไม่เครียด ไม่สวมเสื้อผ้ารัดแน่น ลดน้ำหนัก และถ้าปฏิบัติตามดังกล่าวแล้วยังมีอาการอยู่ควรไปพบแพทย์ อาจจำเป็นต้องทานยารักษาร่วมด้วยค่ะ
ส่วนประจำเดือนไม่มาเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ ถ้ามีประวัติมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกันมาก่อน อาจคิดถึงภาวะตั้งครรภ์เป็นอันดับแรก แนะนำให้ไปตรวจการตั้งครรภ์ดูค่ะ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาหรือประจำเดือนเลื่อนได้ เช่น เกิดความเครียด น้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป ขาดสารอาหาร ออกกำลังหายหักโหมจนเกินไป ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome) เป็นต้นค่ะ
อย่างไรก็ตามควรไปพบแพทย์เพื่อทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย หรือตรวจพิเศษเพิ่มเติมเพื่อทำการวินิจฉัยยืนยัน และจะได้ทำการรักษาต่อไปค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
สมทรง นิลประยูร (นพ.)
โรคริดสีดวงทวารสามารถรักษาได้หลายวิธี ซึ่งจะขึ้นอยู่กับชนิดของโรค ระดับความรุนแรง และความต้องการของผู้ป่วยเอง ในกรณีที่ไม่รุนแรง แพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตนเองที่บ้าน โดยเน้นให้มีการรับประทานอาหารที่มีกากใยเพิ่มขึ้น ดูแลบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวารให้แห้งและสะอาด รวมไปถึงมีการแช่น้ำอุ่นบริเวณก้นเป็นประจำ ควบคู่กับการรับประทานยาในกลุ่มแก้ปวดและยาทา เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด คัน หรือเจ็บบริเวณที่เป็นริดสีดวงทวารน้อยลง แต่หากเป็นขั้นรุนแรงหรืออาการของโรคส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
แพทย์อาจใช้การรักษาด้วยวิธีอื่นเพิ่มเติม เช่น การใช้ยางรัด การฉีดยา การจี้ หรือการผ่าตัดริดสีดวงทวารออก โดยพิจารณาถึงความสมัครใจของผู้ป่วยและดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาเองครับ
ควรไปตรวจรับการรักษากับแพทย์ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้นานๆๆครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เป็นริดสีดวงมานานเเล้ว ไม่ได้รักษาให้หายสักที คือเวลาถ่ายก็ถ่ายค่อนข้างยากปวดเบิ่งก็จะมีเลือดออกมาเป็นหยดๆเเล้วทำให้เจ็บลำใส้ล้างซ้ายเหมือนมีอะไรมาเเทงใต้ซีโครง ไปหาหมอ คุนหมอบอกว่าเป็นลำใส้อักเสบ พักหลังๆมาเเสบกลางอกเหมือนกินข้าวอิ่มไปเเล้วก็ยังเเสบ เเล้วปวดหน่วงๆด้านขวาตลอด เสียดๆกล้ามเนื้อด้านบน ทั้ง2ฝั่งด้วยคะ ทำให้ประจำเดือนไม่มาร่วมด้วยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)