สวัสดีคะ อายุ24 พอดีหยุดทานยาคุมตั้งแต่เดือน พ.ย 61 แล้วคะแต่ทำไมประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้างคะ (จะมาสักสองเดือนแล้วก็เดือนต่อมาก็ไม่มาคะ)ไม่มีอาการใดๆเลยคะ เกิดจากสาเหตุใดคะแล้วอันตรายไหมคะ พอดีจะปล่อยให้มีลูกคะแต่ก็ไม่ท้องสักทีคะเกิดจากอะไรคะคุณหมอ

สวัสดีค่ะ
หากก่อนหน้านี้ ทานยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานาน อาจมีผลทำให้หลังหยุดยา ไม่มีประจำเดือนได้ เนื่องจากเยื่อบุมดลูกบางลงค่ะ

ทั้งนี้ อาจเกิดจากตัวผู้ป่วยเอง ได้แก่ การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ความกังวล การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาอื่น น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ การออกกำลังอย่างหนัก ล้วนแต่ทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอได้ค่ะ

แนะนำว่ากรณีต้องการมีบุตร ควรไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติม ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น และวางแผนการรักษาร่วมกันค่ะ

ระยะเวลา 4 ปี อาจยังไม่ทำให้ เนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกบางค่ะ
แนะนำว่า ประจำเดือนที่มาไม่ปกตินั้น อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆภายใน เช่น ปัญหาเกี่ยวกับรังไข่ (ถุงน้ำรังไข่หลายใบ ;PCOS ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในสตรีที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ น้ำหนักมาก สิวขึ้น) มดลูก ปากมดลูก ช่องคลอด หรือศูนย์ควบคุมการหลั่งฮอร์โมนในสมอง ไทรอยด์เป็นพิษ เป็นต้น
สาเหตุแต่ละอย่าง ต้องอาศัยการซักประวัติอย่างละเอียด ร่วมกับการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆ
จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อวินิจฉัยค่ะ