สวัสดีค่ะ - เมื่อสองอาทิตย์ก่อน หนูไปนวดที่ร้านนวดฝ่าเท้า แล้วต้องเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงของทางร้านก่อนนวด หนูวางกางเกงของหนูไว้ในห้องเปลี่ยนเสื้อ แต่เกิดเหตุการณ์ที่ลูกค้าคนอื่นเอากางเกงของหนูไปใส่เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นกางเกงของทางร้าน ถ้าลูกค้าคนนั้นมีเชื้อ HIV หนูจะมีโอกาสติดเชื้อมั้ยคะ - การใช้กรรไกรตัดเล็บร่วมกับคนอื่น มีโอกาสติดเชื้อ HIV มั้ยคะ (หนูโดนอาจารย์สั่งให้ตัดเล็บ ซึ่งกรรไกนตัดเล็บอันนั้นเป็นของส่วนกลางค่ะ)

สวัสดีครับ
การสวมใส่เสื้อผ้าร่วมกับคนที่ติดเชื้อ HIV นั้นเป็นไปได้ยากมากๆที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อ HIV ครับ ยกเว้นแต่ว่ากางเกงดังกล่าวจะเลอะสารคัดหลั่งหรือเลือดของผู้ที่ติดเชื้อHIVอยู่

ส่วนการใช้กรรไกรตัดเล็บร่วมกับผู้ที่ติดเชื้อ HIV นั้นมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ก็ต่อเมื่อมีเลือดเลอะอยู่ที่กรรไกรตัดเล็บและนิ้วมือของคุณมีแผลอยู่ครับ ซี่งโอกาสเกิดเหตุการณ์นี้ก็มีได้น้อยมากๆเช่นกัน

โอกาสที่สารคัดหลั่งจะซึมผ่านกางเกงในและทำให้มีการติดเชื้อ HIV นั้นเป็นไปได้ยากมากครับ

แต่ถ้าหากไม่สบายใจจริงๆก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดหาการติดเชื้อดูได้ครับ โดยอาจเริ่มตรวจได้ตั้งแต่หลังรับความเสี่ยงประมาณ 2 สัปดาห์หลังรับความเสี่ยง และอาจต้องตรวจยืนยันซ้ำอีกครั้งที่เวลา 3 เดือนเพื่อยืนยันผลตรวจอีกครั้งครับ

การตรวจหาการติดเชื้อ HIV หลังได้รับความเสี่ยงมาประมาณ 2 สัปดาห์จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ประมาณ 90-95% ครับ แต่ถ้าหากตรวจหลังได้รับความเสี่ยงมาเกิน 3 เดือน ผลตรวจก็จะเชื่อถือได้ 99.9% ครับ

ส่วนการติดเชื้อ HIV ในระยะแรกนั้นส่วนใหญ่จะไม่มีอาการครับ ยกเว้นในบางคนที่อาจมีอาการของการติดเชื้อไวรัสในระยะเฉียบพลันได้ โดยจะมีอาการที่ไม่จำเพาะ เช่น มีไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดท้อง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ไอ เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งอาการเหล่านี้จะใกล้เคียงกับการติดเชื้อไวรัสทั่วไปมากทำให้แยกจากกันไม่ได้ และอาการเหล่านี้ก็มักเกิดขึ้นอยู่เพียงไม่กี่วัน จึงไม่สามารถใช้อาการในการวินิจฉัยการติดเชื้อ HIV ได้ แต่ต้องใช้การตรวจเลือดในการวินิจฉัยเป็นหลักครับ