สวัสดี​ค่ะ​ คุณ​หมอ หนูกินยาคุมมาเป็นระยะเวลาปีกว่าๆแล้วเพิ่งหยุดกินไปเมื่อต้นเดือนตุลาคม​ โดยก่อนหน้านี้ประจำเดือน​มาปกติทุกเดือนค่ะ​ แต่ในช่วงเดือนตุลาคม​ที่ผ่านมา​ ประจำเดือนหนูมา2รอบคือมา​ตอนต้นเดือนกับกลางเดือน​ 1.อยากทราบว่า​ ที่ประจำเดือนมา2รอบคือเพราะหยุดกินยาคุมใช่ไหมคะ​ แล้ว​ในเดือนพฤศจิ​กายน​นี้รอบประจำเดือนของหนูจะมาช่วงวันไหนคะ และอีกเรื่องคือ​ เดือนตุลาคม​หนูได้มีเพศสัมพันธ์​โดยไม่ป้องกันและหลั่งในบ่อยครั้ง​ ครั้งสุดท้ายคือเมื่อวานค่ะ​ 4/11/62 หนูอยากเรียนถามคุณ​หมออีกคำถามว่าหนูจะสามารถ​ตรวจครรภ์​ได้เมื่อไหร่​ ผลจึงจะค่อนข้างถูกต้องคะ​ ซึ่งช่วงนี้หนูมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วยเลยค่อนข้างจะเป็นกังวล​ รบกวนคุณหมอให้คำแนะนำทีนะคะ

สวัสดีครับ
1. การที่ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอหลังหยุดรับประทานยาคุมอาจเกิดได้จากการที่ร่างกายไม่ได้รับการควบคุมฮอร์โมนมาจากยาคุมแล้ว ประจำเดือนจึงอาจมีความผิดปกติไปได้จากความผิดปกติเดิมของร่างกายบางอย่าง เช่น
- มีการตกไข่ที่ไม่สม่ำเสมอ
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่
เป็นต้นครับ

2. หลังหยุดรับประทานยาคุมไปแล้วร่างกายก็จะพร้อมมีการตั้งครรภ์ได้ในทันที ในกรณีนี้จึวถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะตั้งครรภ์ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

1.อาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดครับ ทำให้มีเลือดออกผิดปกติ หรือกระปริดกระปรอยได้ภายหลังหยุดยา หรือเริ่มทานยาครับ
2.ให้ดูประจำเดืแนรอบก่อนหน้าเป็นหลักครับ เช่น หากปกติมาทุกปลายเดือน รอบถัดไปก้ควรมาช่วงปลายเดือน อย่างช้าไม่ควรเลทเกิน7วันครับ
3.หากมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันหลังหยุดยาคุมแล้วมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ สามารถตรวจการตั้งครรภ์หลังมีความเสี่ยงได้ใน14วันครับิและตรวจยืนยันผลอีกครั้งใน1สัปดาห์ถัดไปครับ

จากข้อมูลที่ว่าผู้ถามมีประจำเดือนมาตรงรอบปกติตลอด คาดว่ายาคุมที่ใช้จะเป็นยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมนะคะ

หากเป็นเช่นนั้น ประจำเดือนของเดือนตุลาคมก็ควรจะมาใน "ช่วงปลอดฮอร์โมน" ของแผงค่ะ ซึ่งไม่มั่นใจว่าช่วงเวลาดังกล่าวตรงกับเลือดที่ออกมาในตอนต้นเดือน หรือกลางเดือนนะคะ แต่ประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ

ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่พบในระหว่างที่รับประทาน "เม็ดยาฮอร์โมน" ของแผง จะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยานะคะ

เมื่อหยุดใช้ยาคุมไปแล้ว หากไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็ควรจะมาตามผลของฮอร์โมนในร่างกายค่ะ ซึ่งควรจะมาห่างจากวันแรกที่มีประจำเดือนรอบล่าสุดประมาณ 24 - 35 วันนะคะ (นับจากประจำเดือนจริง ๆ นะคะ ไม่ใช่เลือดที่ออกผิดปกติจากสาเหตุอื่น)

แต่เนื่องจากผู้ถามมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ หากไม่มีประจำเดือนมา ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนค่ะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน

ซึ่งถ้าวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดคือ 4 พฤศจิกายน ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ 18 พฤศจิกายนได้ค่ะ

ถ้าหากในขณะนี้มีการตั้งครรภ์อยู่แล้วมีเลือดออกทางช่องคลอดก็อาจเกิดจากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์บางอย่างได้ เช่น ภาวะแท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก

แต่ถ้าหากไม่ได้มีการตั้งครรภ์อาการปวดท้องและมีเลือดออกผิดปกตินี้ก็อาจเกิดได้จากการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานหรือปีกมดลูก ผลจากความผิดปกติของฮอร์โมนในร่างกาย การมีเนื้องอกบางอย่าง

ซึ่งถ้าหากมีอาการปวดท้องอยู่หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ