สวัสดีค่ะ พอดีเคยฉีดยาคุมแบบ1เดือนมาปีกว่า แล้วฉีดแบบ3เดือนครั้งนึง หลังจากนั้นประจำเดือนไม่มาเกือบปี และตอนนี้ไม่ได้ฉีดยาคุมมา 5 เดือนแล้ว มีเพศสัมพันธ์ใส่ถุงยางอนามัยบ้าง ถ้าไม่ได้ใส่จะแค่สอดซักพักแต่ไม่เสร็จ ประจำเดือนเพิ่งกลับมามีอีกครั้งเมื่อวันที่12ส.ค.2562 และหมด 16ส.ค.2562 มีอาการปวดท้องน้อยมาก ผ่านไป 2 อาทิตย์ประจำเดือนมาอีกวันที่ 2 ก.ย. 2562 เป็นสีน้ำตาลเข้ม คล้ำๆ อยากทราบว่าเป็นอาการผิดปกติไหม และจะท้องไหม

สวัสดีครับ
ในช่วงหลังหยุดฉีดยาคุมชนิด 3 เดือนประจำเดือนอาจขาดหายไปได้ในระยะหนึ่งครับ แต่เมื่อมีประจำเดือนมาปกติครั้งหนึ่งแล้ว ประจำเดือนหลังจากนั้นก็ควรจะมาตามปกติ

ลักษณะของประจำเดือนที่ปกติจะเป็นดังนี้ครับ
- มาห่างกันอย่างสม่ำเสมอรอบละ 21-35 วัน
- มาติดต่อกันครั้งละ 3-7 วัน
- ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น
- ลักษณะเป็นเลือดเก่าสีคล้ำ

ซึ่งการมีเลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติในระหว่างรอบเดือนนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- มีระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- เนื้องอกมดลูก
- ติ่งเนื้อหรือมะเร็งที่ปากมดลูก
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ

เลือดออกกระปริบกระปรอยทางช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ

อันดับแรก ต้องเช็ดดูว่า ตั้งครรภ์หรือไม่ ??

ถ้าตั้งครรภ์ จะเป็นลักษณะของเลือดออกผิดปกติ จากภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์ไตรมาสแรกค่ะ เช่น แท้ง ท้องนอกมดลูก

ถ้าไม่ตั้งครรภ์ เกิดได้จาก
- ความผิดปกติที่ปากมดลูก เช่น เซลล์ผิดปกติ ติ่งเนื้อที่ปากมดลูก
- ความผิดปกติ ในโพรงมดลูก เช่น เซลล์ผิดปกติ ติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
- ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ไข่ไม่ตก ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มีเลือดออกกระปริบกระปรอย

เพื่อให้ทราบการว่า เกิดจากสาเหตุอะไร ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายในค่ะ จะได้รักษาตรงสาเหตุ

การมีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่โดยไม่มีการป้องกันอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ

ซึ่งถ้าหากต้องการความมั่นใจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ก็จะสามารถลองตรวจการตั้งครรภ์ดูก่อนได้ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ