August 07, 2019 12:43
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
หากทีอาการคันอวัยวะเพศ อาจมาจากหลายสาเหตุ ตัวอย่างเช่น
-ช่องคลอดแห้ง
-สุขอนามัยไม่ดี
-มีการติดเชื้อ เช่น เชื้อรา หรือแบคทีเรียโรคติดต่อทางเพศสัมพันธฺ เช่น หูดหงอนไก่ เริม เป็นต้น
ซึ่งโรคทางเพศสัมพันธฺส่วนใหญ่ จะมีตกขาวผิดปกติ เช่น ตกขาวสีเหลือง ตกขาวสีเขียว เป็นต้น แต่บางโรคถ้าอาการไม่มาก อาจเห็นไม่ชัดเจนครับ
แนะนำว่า หากคันมาก ควรไปตรวจร่างกายและตรวจภายในเพิ่ทเติมนะครับบางโรคอาจจะอยู่ลึก เช่น ปากมดลูก ทำให้คนไข้มองไม่เห็นได้ครับ
การรักษา จะต้องใช้ข้อมูลจากการตรวจร่างกาย เพื่อรักษาที่สาเหตุตามความเหมาะสมครับ
อนึ่ว สิ่งที่แนะนำเป็นพื้นฐานเลย คือ การดูแลสุขอนามัยที่ดีของบริเวณอวัยวะเพศครับ ได้แก่ การรักษาความสะอาดอยู่เสมอครับ
-เวลาล้าง ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์หรือการสวนล้างช่องคลอดใดๆ หรือใช้สบู่อ่อนๆล้างรอบนอกอวัยวะเพศก็เพียงพอ
-ไม่แนะนำให้สวนล้างบ่อยๆ เนื่องจากช่องคลอดจะเสียสมดุลแบคทีเรียที่มีอยู่ตามปกติ และจะเป็นเชื้อราได้ง่าย
- ทำความสะอาดหลังปัสสาวะและหลังจากมีเพศสัมพันธ์
-เวลาเช็ดอวัยวะเพศหลังขับถ่าย ควรเช็ดจากหน้าไปหลัง
-กางเกงในไม่ควรคับ และแห้งไม่อับชื้น
- มีคู่นอนแค่คนเดียว และถ้าหากมีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเปลี่ยนคู่นอนบ่อยๆ ควรป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีตัวยาแนะนำมั้ยคะ
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
คันในช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
* การติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย, เชื้อรา, เชื้อปรสิต
* ช่องคลอดอักเสบ
* การแพ้ต่างๆ เช่น แป้ง, สบู่, น้ำยาสวนล้างช่องคลอด เป็นต้น
เบื้องต้นแนะนำ งดสวดล้างช่องคลอด งดมีเพศสัมพันธ์ ดื่มน้ำมากๆ ไม่กลั้นปัสสาวะ ไม่ใส่เสื้อผ้าอับชื้น และลองเปลี่ยนสบู่ หรือแป้งที่ใช้ ดูครับ
แนะนำให้ ไปพบแพทย์หรือสูติแพทย์ เพื่อตรวจร่างกาย ตรวจภายใน เพิ่มเติมเพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
สาเหตุของการคันบริเวณช่องคลอดนั้นมีได้หลายสาเหตุ ทั้งเกิดการโรคติดต่อและไม่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ สาเหตุที่พบได้บ่อยๆเช่น การติดเชื้อราบริเวณช่องคลอด อาจมีตกขาวสีขาวขุ่นข้นปนมาด้วย มีอาการคันบริเวณช่องคลอดมาก การรักษาแพทย์จะย้อมหาเชื้อที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค หากพบการติดเชื้อราเช่น แคนดิดา จะให้การรักษาด้วยยาสอดฆ่าเชื้อราซึ่งมีประสิทธิภาพที่ดีกว่ายาทาครับ นอกจากนี้การติดเชื้อแบคทีเรีย เช่น Bacterial vaginosis,ทริโคโมแนส ก้อาจทำให้มีอาการคันช่องคลอด ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ได้เช่นกัน
ฉะนั้นหมอแนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน ตรวจหาเชื้อที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
มีอาการคันเท้าแต่ไม่มีผื่นหรือแผล จะรักษาอย่างไรดี
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีอาคารคันบริเวณช่องคลอดค่ะ
แบบคันมากเวลาเย็นๆเนี้ยกลางคืนบางที่ก็ไม่ได้นอน
คันมากต้องเกาตลอดพอเกาเยอะก็เป็นแผลแสบมากต้องใช้ยาอะไรค่ะ
มีอาการคันที่บริเวณช่องคลอดค่ะตอนแรกได้คาเนสเทนมาทา ทาไปก็จะดีขึ้นเป็นพักๆค่ะ แต่บางครั้งทายาอยู่ก็คันและคันมากค่ะ เลยลองไปปรึกษาเภสัชดูอีกรอบ รอบนี้ได้ยาเดอร์สิดซีมาทา ทาสองครั้งแรกก็รู้สึกว่าหายคัน พอจะทาครั้งที่สามเพราะรู้สึกคันมากแต่ระหว่างทาอยู่ก็คันค่ะ สักพักใหญ่ๆถึงจะหายคันไม่มีตกขาวนะคะ แล้วระหว่างวันก็มีคันบ้างแต่จะคันเยอะในช่วงกลางคืนค่ะ มียาอะไรที่ทาแล้วจะดีขึ้นกว่าสองตัวที่ได้มามั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)