February 07, 2019 18:07
ตอบโดย
สุพิชชา แสงทองพราว (พญ.)
อาการปวดท้อง สามารถเป็นได้จากหลายสาเหตุค่ะ ต้องมีการตรวจร่างกาย และซักประวัติเพิ่มเติม ที่สามารถพบได้ และโรคที่พบได้บ่อย เช่น
1. โรคของระบบทางเดินอาหาร เช่น
-ลำไส้อักเสบ ทำให้มีอาการปวดท้องแบบบีบๆ มักจะปวดเป็นพักๆ มีท้องเสียถ่ายเหลว หรือมีไข้ร่วมด้วยได้ค่ะ
- โรคกระเพาะ มักมีอาการปวดท้องที่ตำแหน่งใต้ลิ้นปี่ สามารถปวดบิดหรือแสบท้องได้
2.อาการของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น
- อาการของโรคนิ่วในท่อไต จะรู้สึกปวดแบบบีบๆที่ท้องบริเวณสีข้าง. และร้าวไปถึงด้านหลัง ปวดแบบเหมือนโดนบีบ บางครั้งพบมีอาการปวดร้าวมาที่ท้องน้อยได้ค่ะ ตรวจปัสสาวะอาจพบมีเม็ดเลือดแดงปนมากับปัสสาวะ หรือเอกซเรย์พบนิ่วได้ การรักษาเบื้องต้น สามารถใช้ยาลดอักเสบแก้ปวดมาบรรเทาอาการก่อนได้
- ติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ อาจพบมีปัสสาวะแสบขัด หรือขุ่น อาจมีไข้ หรือถ้าติดเชื้อลามไปที่กรวยไต จนเกิดโรคกรวยไตอักเสบ มักจะพบมีไข้สูง และปวดหลังร่วมด้วย สามารถตรวจวินิจฉัยได้จากการตรวจปัสสาวะ การรักษาคือให้ยาฆ่าเชื้อ
3.อาการปวดจากกล้ามเนื้อ
- กล้ามเนื้ออักเสบ มักเกิดจากการที่มีการใช้กล้ามเนื้อผิดท่าทาง เช่น ยกของหนักเกินไป หรือเอี้ยวตัวผิดจังหวะ หรือมีการลากหรือดึงโดยใช้กล้ามเนื้อทางด้านซ้ายมากเกินไป เป็นต้น ลักษณะของการปวดกล้ามเนื้อ จะปวดสัมพันธ์กับท่าทางค่ะ ปกติแล้วสามารถหายได้เอง แต่ถ้าเป็นมาก อาจซื้อยาคลายกล้ามเนื้อ หรือยาลดการอักเสบของกล้ามเนื้อมาใช้ได้
แนะนำว่าควรไปโรงพยาบาล เพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ปวดท้องบิดๆ เจ็บมาก เจ็บน้อย ทรมานมาก ยืนตัวตรงไม่ได้เท่าไหร่ เป็นแต่ตอนเช้า พอตกเย็นมาลองกินนมก็เจ็บขึ้นมาอีก อยากทราบว่าเป็นเะราะอะไร
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)