July 02, 2019 17:09
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากอาการตามที่เล่ามานั้นหมอคิดว่ามีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
ส่วนในระหว่างนี้หมอก็แนะนำว่าควรหากิจกรรมที่ผ่อนคลายมาทำเพื่อช่วยเบี่ยงเบนอารมณ์ของตนเองบ้าง พยายามออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หาเพื่อนมาพูดคุยด้วยบ้าง ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้บ้างครับ
และถ้าหากต้องการคำปรึกษาในเบื้องต้นเพิ่มเติมก่อนไปพบแพทย์ก็สามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 ได้อีกหนึ่งช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
หนูอยากจะไปพบแพทย์เหมือนกันค่ะ แต่ไม่รู้จะคุยกับแม่ยังไง คุณหมอมีวิธีแนะนำมั้ยคะ._.
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
หมอแนะนำให้ลองพูดคุยอาการที่เกิดขึ้นกับคุณแม่โดยตรงก่อนครับ อธิบายให้ท่านทราบถึงอารมณ์ความรู้สึกและผลกระทบที่เกิดขึ้น พยายามแสดงให้ท่านเห็นว่าอาการที่เกิดขึ้นนี้เป็นมากกว่าอารมณ์เศร้าที่เป็นปกติ หมอคิดว่าคุณแม่น่าจะพอเข้าใจได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
จากอาการหนูมีความเครียดสะสม นานเกิน 2 เดือน และการที่คนเรามีความเครียดสะสมเป็นระยะเวลานาน อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะ ภาวะซึมเศร้าค่ะ
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
การคุยกับคุณแม่ให้เข้าใจ อาจเริ่มจากการบอกอาการของเรา และบอกว่าเราควบคุมอารมณ์ไม่ได้ และเคยปรึกษาคุณหมอและนักจิตวิทยาในเว็บไซค์ที่ให้ความรู้ด้านสุขภาพมาแล้ว หนูมีแนวโน้มที่จะเป็นซึมเศร้าได้ และหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคซึมเศร้าให้คุณแม่อ่าน เพื่อท่านจะได้เข้าใจ สาเหตุ อาการ วิธีการรักษา และให้ความช่วยเหลือแก่หนูได้เหมาะสม โดยการพาหนูไปพบจิตแพทย์นะคะ
แต่หากคุณแม่ไม่เข้าใจ หนูสามารถไปพบจิตแพทย์ได้ด้วยตัวเองค่ะ พี่แนะนำให้รับบริการตรวจ รักษา ใน รพ.ตามสิทธิ์ก่อนนะคะ จะได้ลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หนูรู้สึกเครียดมาเป็นเวลา2-3เดือนแล้วค่ะ ช่วงเดือนแรกๆร้องไห้ทุกวัน ทานอาหารไม่ลง น้ำหนักลด เครียดคิดว่าตัวเองไร้ค่าแล้วอาการพวกนี้ก็หายไปค่ะแต่ก็ยังมีความเครียดอยู่ แต่ช่วง3-4วันนี้มันเริ่มกลับมาอีกแล้วค่ะ ครั้งนี้หนูรู้สึกว่ามันหนักกว่าเดิม ร้องไห้ ทานอะไรไม่ลง อยากนอนมากกว่าปกติ อยากหายไปจากโลกใบนี้ ไม่อยากทำอะไรเลย เครียดตลอดเวลาแพนิคกับเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้น ไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือ ไม่อยากออกจากบ้าน หนูควรจัดการกับความรู้สึกกตัวเองยังไงดีคะ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)