May 13, 2019 13:30
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ในกรณีที่ตรวจทางด้านร่างกายแล้วคุณหมอยืนยันผลว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากโรคทางกาย แสดงว่าอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นอาจมีสาเหตุมาจากความเครียด ความวิตกกังวลที่มากเกินปกติก็เป็นไปได้ค่ะ
การที่มีความเครียด วิตกกังวลมากเกินปกติ จะกระตุ้นเร้าให้ระบบประสาทอัตโนมัติของร่างกายทำงานไวขึ้น เช่น หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่หอบ เจ็บแน่นหน้าอก มือเท้าชา หน้ามืด เป็นลม และเมื่อมีอาการเกิดขึ้นผู้ป่วยจะยิ่งกังวลมากขึ้นจนไม่สามารถควบคุมอาการได้ กลัวว่าจะมีอาการจนถึงแก่ชีวิต อาการส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ไม่กล้าไปไหนไกลๆเพราะกลัวมีอาการ และอาการจะเกิดขึ้นตอนไหนก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ อาการในลักษณะนี้อาจเข้าข่ายโรคแพนิค
แพนิคเป็นโรค ในกลุ่มวิตกกังวล เกิดจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้ความคิด อารมณ์ พฤติกรรม หรือการทำงานของระบบร่างกายผิดปกติไปด้วย
การรักษา มีทั้งการใช้ยา และไม่ใช้ยาค่ะ
การรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ช่วยลดความวิตกกังวลลง
การทำจิตบำบัด เป็นการบำบัดเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย และอาจใช้เทคนิคการปรับความคิดร่วมด้วย
ในกรณีที่พบจิตแพทย์แล้ว คุณหมอให้ยาแก้ใจสั่นมาทาน ก็ลองทานไปก่อน และ แนะนำวิธีปฏิบัติตัวเมื่อเริ่มเกิดอาการ โดยการตั้งสติ กำหนดลมหายใจเข้าออกลึกๆ ยาวๆ และบอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร เป็นแค่อาการวิตกกังวลที่เร้าให้ระบบประสาทอัตโนมัติทำงานไวเกินไป เราสามารถควบคุมอาการได้ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ พักผ่อนให้เพียงพอ ลอปริมาณกาเฟอีนและควรหลีกเลี่ยงสารกระตุ้นพวกบุหรี่ แอลกอฮอล์และสารเสพติดทุกชนิดด้วยนะคะ อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น
แต่หากลองปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้นแล้ว อาการไม่ดีขึ้นภายใน 6 เดือน ควรกลับไปพบจิตแพทย์อีกครั้ง ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม ซึ่งคุณหมออาจพิจารณาให้การรักษาด้วยยาก้จะช่วยให้อาการดีขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ขอบคุณมากครับ ปกติเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่อยู่แล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วันนั้นก็ไม่ดื่มกาแฟอีกเลยครับ ยังไงจะปฏิบัติตัวตามที่หมอแนะนำครับ
อยากทราบว่าอาการที่เป็นอยู่คืออะไรครับ และจะรักษาได้อย่างไร ขอเล่าย้อนความก่อนว่าเมื่อก่อนเป็นคนทำงานหนักมาก เป็นโปรแกรมเมอร์ครับ ทำงานแทบจะเรียกได้ว่าออฟฟิศคือบ้าน พักผ่อนน้อยครับ และเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับ เครียดหลายๆเรื่องทั้งงาน และเรื่องส่วนตัว กินกาแฟทุกวัน น้ำหนักเพิ่มขึ้นไปถึง 92 กิโลกรัม สูง 174 เซนติเมตรครับ ทำอยู่อย่างนั้นประมาณ 6 เดือนได้ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณปลายเดือนมีนาคม ก่อนเลือกตั้งครับ คือนอนน้อย บวกกับกินการแฟมาก ช่วงนั้นกินแบบเพิ่มช็อตกาแฟด้วย ช่วงเที่ยงรู้สึกเหงื่อออกทั้งๆที่แค่เดินไปซื้อกาแฟปกติ วันนั้นไม่ได้กินข้าว และกินกาแฟไป 2 แก้ว แบบเพิ่มช็อต พอตอนบ่ายเริ่มมีอาการใจเต้นแรง ใจสั่นเหมือนจะหลุดออกมาครับ รู้สึกเหมือนหน้าจะมืด จะเป็นลม แต่ก็ไม่ได้เป็นถึงขึ้นนั้น รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก นั่งไม่ได้ครับ ถ้านั่งจะหายใจลำบาก เลยให้เพื่อนพาไปส่งโรงพยาบาล หมอตรวจโดยการเจาะเลือดเพื่อหาไทรอยด์ และทำการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผลออกมาปกติไม่พบไทรอยด์ หัวใจปกติ แต่เต้นเร็ว หมอบอกว่าโพแทสเซียมในเลือดต่ำ เลยให้กินยาแก้เครียดกับโพแทสเซียมแบบน้ำ แล้วให้กลับบ้านได้ แต่พอกลับมามันก็กลัวจะเป็นอีก กลัวตัวเองเป็นโรคหัวใจ หรืออะไรที่เกี่ยวกับสมอง กลัวตาย ช่วงนั้นต้องกลับไปเลือกตั้งก็เลยต้องนั่งรถทัวร์กลับโคราช ปรากฎว่าอาการเดิมกลับมาอีก แต่ไม่ได้รุนเเรงเท่าเดิม แต่ทำให้เราไม่สบายใจต้องลงรถที่สระบุรี และโทรให้ที่บ้านมารับ 1 อาทิตย์ผ่านไปไม่มีอาการ แต่ยอมรับว่าเครียดตลอดเวลาครับ กลัวตายมาก หลังจากพักได้ 1 อาทิตย์ กลับมาทำงานอาการกลับมาอีก แต่แปลกตรงที่พอเรากลัวจะเกิด คราวนี้มันเกิดทันทีเลย เป็นอยู่ราวๆครึ่งชั่วโมงครับ เลยเสิร์จหาข้อมูลว่าเราเป็นอะไร เลยได้เจอคำว่า "Panic Disorder" แต่ยังไม่คิดว่าตัวเองเป็นครับ หลังจากนั้นเลยไปตรวจโรคหัวใจ โดยการ x-ray, ทำ echo, ตรวจเลือด และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ผลออกมาปกติครับ แต่หมอบอกว่ามีลิ้นหัวใจรั่วนิดเดียว แต่ไม่อันตราย แนะนำให้ออกกำลังกาย่วงนั้นออกกำลังกายทุกวันเลยครับ จากที่ไม่เคยออกกำลังกายเลย หลังจากตรวจอาการก็ยังมาอีกเรื่อยๆ บางครั้งควบคุมได้ บางครั้งควบคุมไม่ได้ เกิดขึ้นอีกประมาณ 3-4 ครั้ง หลังจากไปหาหมอ ช่วงนั้นออกกำลังกายเเล้วรู้สึกเจ็บจี๊ดๆที่หน้าอกด้วย แต่จะเป็นเมื่อเราออกแรง เลยกลัว ก็เลยไปตรวจหัวใจอีกรอบครับ หมอให้ทำการวิ่งสายพาน ผลออกมาก็ปกติ จนหมอยืนยันว่าเรื่องเส้นเลือดหัวใจไม่เป็นแน่นอน ไม่ต้องคิดมาก แต่ว่าอาการยังมาอีกเรื่อยๆ ยิ่งเวลาเจอคนเยอะๆ อากาศร้อนๆ จะมาทันทีครับ ตัดสินใจไปหาจิตแพทย์เพื่อสอบถามเรื่อง "Panic Disorder" หมอก็แนะนำให้ออกกำลังกาย ทำสมาธิ และให้ยาแก้ใจสั่นมาแทน ให้กินเวลามีอาการ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังมีอาการบ้าง เช่น เจ็บหน้าอกเวลาออกกำลังกาย เอี้ยวตัวแรงๆ มีอาการเมื่อยแขนซ้ายบ้าง แต่อาจเป็นเพราะใช้แขนซ้ายยกของบ่อย กังวลตลอดเวลา เครียด แน่นหน้าอก หายใจลำบาก แสบท้อง หรืออกเยื้องๆทางซ้าย กลัวเป็นโรคหัวใจ หรือสมอง ไม่กล้าใช้ชีวิตครับ ไปห้างไม่ได้ ไม่กล้าอยู่ที่ๆห่างโรงพยาบาลมาก ที่ที่เป็นเหมือน safe zone ของตัวเองคือ ที่หอพักกับที่ทำงาน รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำด้วยครับ ตอนนี้น้ำหนักลดจาก 92 เหลือ 83 ครับ ออกกำลังกายทุกวัน( โดยการวิ่ง ) และควบคุมอาหารครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)