หมอครับผมมีเพสสัมพันธ์​ใส่ถุงยางมีโอกาส​ติดเชื้อhivได้ไม่ครับ

สวัสดีครับ
ถึงแม้จะมีการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยทุกครั้งแต่ถุงยางอนามัยก็ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% ครับ

โดยทั่วไปแล้วการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยแต่ละครั้งจะมีโอกาสติดเชื้อ HIV ได้ประมาณ 0.04% แต่ถ้าหากได้ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยโอกาสติดเชื้อก็จะลดลงไปได้อีกประมาณ 90% ทำให้ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่เมื่อมีการใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยโอกาสที่จะติดเชื้อ HIV ได้ก็จะมีน้อยมากๆคร้บ

สวัสดีค่ะ ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันเชื้อ HIV ได้สูงค่ะ แต่ถ้าใส่ไม่ถูกต้องก็มีโอกาสติดเชื้อได้ค่ะ สำหรับขั้นตอนการใส่ถุงยางที่ถูกต้อง ได้แก่ เช็ควันหมดอายุของถุงยางอนามัยและใส่ให้ถูกด้านเวลาใช้ ต้องใส่ขนาดที่พอดีค่ะ ถ้ารัดไปถุงยางจะขาดได้ ส่วนถ้าหลวมไปจะเคลื่อนหลุดได้ ลองหาหลายๆยี่ห้อและทดสอบกับตัวเองก่อนใช้งานจริงว่าขาดหรือเลื่อนหลุดไหม ถ้าไม่ก็แสดงว่าใช้ได้ค่ะ ไล่ลมออกโดยการใช้นิ้วบีบปลายถุงยางอนามัยขณะสวมใส่อวัยวะเพศที่แข็งตัวเต็มที่ค่ะ วิธีทดสอบว่ารั่วหรือไม่ก่อนใช้งานคือ หลังสวมถุงยางไปแล้วให้กดกระเปราะตรงปลายถ้ากระเปาะคืนสภาพแสดงว่าไม่รั่วค่ะ แต่ถ้าไม่คืนสภาพ กดแล้วยุบตัวแสดงว่ามีรูรั่วค่ะ และหลังใช้เสร็จอาจทดสอบถุงยางอีกรอบว่ารั่วหรือไม่โดยการบีบส่วนปลายอีกรอบค่ะ รูดให้ชิดโคนมากที่สุดค่ะเพื่อป้องกันไม่ให้ถุงยางอนามัยเลื่อนหลุดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ และควรใช้สารหล่อลื่นสำหรับการมีเพศสัมพันธ์สัมพันธ์เท่านั้น เช่น KY jelly หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมเป็นน้ำหรือซิลิโคนเท่านั้น สารอื่นเช่น วาสลีน เบบี้ออลย์ น้ำมันมะพร้าว โลชั่นทาผิวทั่ว หรือสารหล่อลื่นที่มีส่วนผสมของน้ำมันห้ามใช้เพราะจะทำให้ถุงยางขาดง่ายค่ะ

อาการของการติดเชื้อ HIV ในระยะแรกจะไม่มีความจำเพาะครับ โดยถ้าหากมีอาการอาการก็มักเกิดหลังได้รับเชื้อมา 4-6 สัปดาห์ไปแล้ว โดยจะมีอาการได้หลายอย่าง เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว ปวดท้อง ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้จะมีความใกล้เคียงกับการติดเชื้อไวรัสทั่วไปมากๆ ทำให้ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และในบางคนก็อาจไม่มีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นก็ได้ครับ

เมื่อสงสัยว่าอาจมีการติดเชื้อ HIV ได้จึงต้องอาศัยการตรวจเลือดเพื่อยืนยันเท่านั้น ไม่สามารถใช้อาการในการวินิจฉัยโรคได้ครับ ถ้าหากมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HIV มาก่อนหมอก็แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดยืนยันดูก่อน ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการติดเชื้อก็ควรลองตรวจซ้ำอีกครั้งที่เวลา 3 เดือนหลังรับความเสี่ยงเพื่อให้ๆด้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 99.9% ครับ

ถ้าใส่ถุงยางอนามัยก็ปลอดภัยค่ะ โอกาสติดเชื้อ HIV จากการใส่ถุงยางอนามัยน้อยมากๆค่ะ

ถ้าใส่ถุงยางอนามัยถูกต้องส่วนใหญ่จะสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้หมดเลยค่ะ แต่เชื้อราไม่ค่อยติดในผู้ชายค่ะ มักเจอในช่องคลอดของผู้หญิงมากกว่าค่ะ

ถ้าหากใช้ถุงยางอนามัยแล้วโอกาสที่จะติดเชื้อ HIV ได้ก็มีน้อยมากๆครับ เพียงแต่คงไม่สามารถมั่นใจได้ถึงขนาดว่าจะปลอดภัยแน่นอน 100% เท่านั้น

ถ้าหากต้องการความมั่นใจก็สามารถไปตรวจเลือดยืนยันการติดเชื้อดูได้ครับ

ในกรณีที่ตรวจครั้งแรกแล้วไม่พบการติดเชื้อก็ควรตรวจซ้ำอีกครั้งที่เวลา 3 เดือนหลังรับความเสี่ยงเพื่อให้ได้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 99.9% ครับ

ถ้าหากใส่ถุงยางอนามัยได้ถูกต้อง ไม่แตกรั่ว โอกาสที่จะติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ก็มรน้อยมากๆครับ ไม่ต้องกังวลครับ

อาการมีไข้ อ่อนแรง ปวดศีรษะไม่ใช่อาการที่มีความจำเพาะต่อการติดเชื้อ HIV ครับ เพราะอาการเหล่านี้ก็อาจจากการเป็นหวัด การติดเชื้อไวรัสทั่วไปได้

ในกรณีที่มีความกังวลมากหมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและตรวจเลือดเพื่อยืนยันการติดเชื้อดูครับ เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ทราบได้ว่ามีการติดเชื้อ HIV หรือไม่คร้บ

สามารถตรวจได้ครับโดยการตรวจในช่วงเวลานี้จะทำให้ได้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ประมาณ 95% และถ้าหากผลตรวจออกมาปกติก็ให้ลองตรวจยืนยันอีกครั้งที่เวลา 3 เดือนหลังรับความเสี่ยงเพื่อให้สามารถเชื่อถือผลตรวจได้ 99.9% ครับ

ตรวจได้ค่ะ แต่ถ้าที่ 3 เดือนความน่าเชื่อถือเกือบ 100%ค่ะ ดังนั้นถึงผลออกมายังไงต้องยืนยันที่ 3 เดือนอีกรอบค่ะ