สวัสดีค่ะ คิดว่าตัวเองมีอาการดังต่อไปนี้เนื่องจากความเครียดค่ะ แต่ไม่แน่ใจสาเหตร้อยเปอร์เซ็น แต่เริ่มเป็นตั้งแต่เริ่มทำงานหลังเรียนจบ จนกระทั่งตอนนี้ครบปีพอดี - นอนไม่หลับ สมองไม่หยุดคิด (ไม่ได้เป็นทุกวัน วันไหนงานยุ่งจะเป็น) - เพลียๆทั้งวัน ไม่กะปี้กะเปร่า - ปวดบริเวณท้ายทอย บ่าไหล่ เหมือนกล้ามเนื้อเกร็ง (เป็นเกือบทุกวันแม้แต่วันหยุด) - ปวดศรีษะจี๊ดๆพร้อมกับกระบอกตา ส่วนใหญ่จะเป็นข้างใดข้างหนึ่ง (เป็นเกือบทุกวัน) -สิวอุดตันขึ้นเยอะ ทั้งๆที่ลองหยุดครีมบำรุง หยุดแต่งหน้า และทายาสิวที่เป็นเวชสำอางค์ - หากงานที่ทำยากมาก จะมีอาการเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในคอ เหมือนกล้ามเนื้อในคอหดเกร็ง กลืนอาหารได้ปกติ แต่รำคาญ - หงุดหงิดง่าย หลังจากนั้นได้ลองซื้อวิตามินบีรวม (Exact B ของ Blackmore) มาทานคู่กับวิตามินซี พบว่าอาการปวดหัวจี๊ดๆ และนอนไม่หลับดีขึ้นมาก แต่อาการปวดท้ายทอยดีขึ้นแค่ช่วงแรกและกลับมาเป็นอีก ส่วนวันที่เครียดมากยังคงมีอาการจุกในคอ และความไม่กะปี้กะเปร่ายังเป็นเหมือนเดิม หงุดหงิดง่ายเหมือนเดิม ไม่อยากพึ่งพาวิตามินมาก และอยากให้อาการปวดท้ายทอยหายไวๆ อยากทราบว่าควรปรับปรุงการใช้ชีวิตอย่างยรบ้างคะ และควรไปพบแพทย์หรือไม่ ลักษณะงานที่ทำคือวิศวกรรมโครงสร้าง งานเครียด ช่วงแรกๆกดดันมาก ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว ทำงานเฉลี่ย 8:00-20:00 ( จ. อัง. พฤ.) 8:00-17:00 (พ. ศ. ส.) เข้านอน 22:30 น. ตื่น 6:00 ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เนื่องจากเพลีย ไม่อยากทำอะไร อยากพักผ่อนอยู่กับคนที่รัก งานอดิเรกคือเดินห้าง

สวัสดีครับ
การมีความเครียดจากปัญหาต่างๆที่เข้ามาในชีวิตนั้นถ้าหากเป็นมากเกินไปก็อาจมีผลกระทบต่อการนอนหลับ รวมถึงอาจก่อให้เกิดอาการทางกายต่างๆในลักษณะตามที่เล่ามาได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ เหมือนมีอะไรมาจุกแน่นอยู่ในคอ ซึ่งความเครียดที่มากเกินไปในลักษณะนี้ก็อาจมีการพัฒนาไปเป็นโรคซึมเศร้าหรือโรควิตกกังวลตามมาได้ครับ

ถ้าหากเริ่มรู้สึกว่าความเครียดที่เกิดขึ้นนี้มีผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันหรือการทำงานมากแล้ว หมอก็แนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมดูให้แน่ใจก่อน เนื่องจากในกรณีนี้มีความเป็นไปได้ที่จะมีโรคทางด้านจิตใจบางอย่างซ่อนอยู่ที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาได้ครับ และเมื่อสามารถรักษาได้ตรงสาเหตุก็จะช่วยให้อาการนอนไม่หลับดีขึ้นตามมาได้ครับ

คุณเข้าใจถูกต้องแล้วครับ อาการต่างๆ สิ่งที่คุณเล่ามาเป็นเนื่องจากความเครียด

คุณยังไม่มีวิธีจัดการกับความเครียด​ได้ดีพอ (stress management)

การทุ่มเทให้กับงานมากไป ก็จะทำให้สูญเสียความสมดุลระหว่าง การงานกับชีวิตส่วนตัวที่เรียกว่า Work-Life Balance

บางทีการที่คนเรามองตัวเองวิเคราะห์ตัวเองอาจจะไม่ดีพอเท่ากับให้คนอื่นมองและวิเคราะห์หาทางออกให้ ถ้ามีผู้ที่ให้คำปรึกษาที่ดี เป็นมืออาชีพ เช่น จิตแพทย์ก็อาจจะช่วยให้คุณดีขึ้นได้

บางระยะของความเครียดถ้าใช้ยาที่ช่วย คลายเครียดได้เช่นกลุ่ม anxiolytics ก็จะช่วยให้คุณ ดีขึ้นได้เร็ว

การที่จัดการกับความเครียดได้ จะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น การดำเนินชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้นครับ

สรุปแนะนำว่าควรพบจิตแพทย์