July 31, 2019 21:56
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ จะให้คำตอบได้ดีที่สุด ซึ่งโดยปกติแล้วการคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัย มีโอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 2-15 ขึ้นอยู่กับการใช้งานถูกวิธีหรือไม่
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
ประจำเดือนขาด เป็นสัญญาณหนึ่งของการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
หากผู้ถาม มีประวัติการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันนั้น มีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้สูงค่ะ
การสวมถุงยางอนามัย อย่างถูกต้อง ไม่รั่วซึม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-15 %
หากสงสัยตั้งครรภ์. แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ 14 วัน นับจากวันที่มีการปฏิสนธิ จะให้ผลน่าเชื่อถือถึง 99%ค่ะ
หากพบการตั้งครรภ์ แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อฝากครรภ์ ณ รพ ที่มีสิทธิ์การรักษาค่ะ
แต่หากไม่พบการตั้งครรภ์ อาจเกิดจากประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งการที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปไม่กี่วันนั้นมีปัจจัยได้หลายอย่างค่ะ ทั้งจากตัวผู้ป่วยเอง การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ความกังวล การตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ผลข้างเคียงจากการรับประทานยาอื่น น้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป ฮอร์โมนในเลือดผิดปกติ การออกกำลังอย่างหนัก ล้วนแต่ทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้
กรณีนี้ แนะนำพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย เพื่อให้วงจรฮอร์โมนในร่างกายกลับมาปกติ
และควรไปพบสูติแพทย์หากประจำเดือนขาดมากกว่า 3 เดือนติดต่อกัน หรือ 3 รอบเดือนตลอด 1 ปีค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ปวริศ ยืนยง (นพ.)
สวัสดีครับ ถ้ามั่นใจว่าถุงยางไม่รั่ว ก็ไม่ตั้งครรภ์ครับ
สาเหตุอื่นที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาเช่น
1.ความผิดปกติที่ธาลามัส เช่น มีการทำงานของฮอร์โมนบางอย่างทำงานผิดปกติ หรือ เนื้องอก ซึ่งธาลามัสเป็นตัวควรคุม การทำงานของฮอร์โมนต่างๆครับ ถ้าทำงานผิดปกติจะส่งผลต่อต่อมใต้สมองได้ครับ
2.ความผิดปกติที่ต่อมใต้สมอง เช่น ผลิตฮอร์โมนที่ชื่อ prolactin มากไป จะทำให้มีน้ำนม เวลามีน้ำนม จะไม่มีประจำเดือน ครับ ซึ่งโรคนี้ต้องไปตรวจกับอายุรแพทย์เพื่อทำการ x ray คอมพิวเตอร์ สมองครับ
3.ความผิดปกติที่รังไข่ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ จะมีประจำเดือนมาไม่ปกติ มาบ้างไม่มาบ้าง เพราะว่าในบ้างเดือนไข่ก็จะไม่ตก กลายเป็นถุงน้ำในรังไข่ ซึ่งพบได้บ่อยในเพศหญิงโรคนี้จะตรวจต้องไปตรวจกับ สูตินารีแพทย์ ครับ
4.ความผิดปกติที่ฮอร์โมนจากร่างกายตัวอื่นๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ หรือไทรอยด์ต่ำ ซึ่งฮอร์โมนไทรอยด์ ต่ำไป สูงไป ก็จะทำให้ ประจำเดือนไม่มาได้ครับ เป็นต้นครับ
5.ความเครียด และ น้ำหนักตัวที่มากอาจจะทำให้ประจำเดือนผิดปกติได้ครับ
เพราะฉะนั้นแนะนำให้ไปโรงพยาบาลตรวจหาโรคเพิ่มเติมดีกว่าครับ การที่ประจำเดือนไม่มามีหลายสาเหตุมากครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ การใช้ถุงยางอนามัยมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 2-18% ค่ะ กรณีที่ใช้ถูกต้อง ถุงยางไม่ขาด ไม่รั่ว ไม่ร่นลงมา ก็มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%ค่ะ กรณีที่ประจำเดือนขาดนานเกิน 1 สัปดาห์ให้สงสัยการตั้งครรภ์ไว้ก่อนค่ะ และสามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เร็วสุดหลังมีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว 14 วันค่ะ โดยให้ตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ ดังนั้นเบื้องต้นหมอแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะคะ และถ้าไม่ตั้งครรภ์อาจคิดถึงสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ประจำเดือนขาดได้ เช่น
-ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หรือไม่มีการตกไข่
-เกิดความเครียด เป็นโรควิตกกังวล โรคอารมณ์แปรปรวน
-น้ำหนักมากหรือน้อยเกินไป ขาดสารอาหาร ออกกำลังหายหักโหมจนเกินไป
-จากการคุมกำเนิด เช่น จากการฝังยาคุมกำเนิด จากการทานยาคุมหรือฉีดยาคุมไปนานๆ
-ผิดปกติทางโครงสร้างของมดลูก
-ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
-มีเนื้องอกที่ต่อมใต้สมอง ต่อมหมวกไต หรือรังไข่
-ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome)
-ภาวะพังผืดในมดลูก (Asherman's syndrome)
-วัยรุ่นที่เพิ่งมีประจำเดือนทำให้ประจำเดือนยังมาไม่สม่ำเสมอในช่วงแรกได้
-วัยที่เข้าใกล้วัยหมดประจำเดือน
-จากยาบางชนิด จากยาเคมีบำบัด จากการฉายรังสี
-โรคเรื้อรังบางชนิด หรือ จากการเจ็บป่วย
ยังไงถ้าตรวจตั้งครรภ์แล้วไม่พบว่ามีการตั้งครรภ์และประจำเดือนขาดนานเกิน 3 เดือนแนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุประจำเดือนขาดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ
แต่ถ้าหากมีการขาดประจำเดือนไป หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเพื่อความมั่นใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนที่มาช้าก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
คือว่า... ผมกับแฟนมีอะไรกันวันที่10/07/62แล้วก็วันที่24/07/62 แต่ผมก็ใส่ถุงอยู่น่ะครับ แต่ว่าตอนจะมีเพศสัมพันธ์ผมใช้มือจับถุงยางเล็กน้อย แต่ก็ใส่ทุกครั้งน่ะครับ ถึงตอนนี้วันที่31/07/62 ปจด แฟนยังไม่มาเลย มีโอกาสท้องมั้ยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)