2เดือนก่อนประมาณเดือนพ.ค.62มีอะไรกับแฟนค่ะ ไม่ได้ป้องกันแต่แฟนไม่เสร็จค่ะ พอวันนั้นหลังจากมีไรกันเลยซื้อยาคุมแบบ21เม็ดมากินค่ะ กินไปได้7เม็ด แล้วไปตรวจผลออกมาเป็นขีดเดียวค่ะเลยไม่กินต่อ แล้วจากนั้นประจำเดือนไม่มาเลยค่ะ ตอนนี้เดือนก.ค.62แล้ว ประจำเดือนก็ยังไม่มาค่ะ ซื้อที่ตรวจมาตรวจ2-3รอบก็ขึ้นขีดเดียว ตอนนี้กินยาสตรีฟลอร่า(พึ่งเริ่มกิน1เม็ด) จะเป็นไรมั้ยคะ แล้วจะมีน้องมั้ยคะ

หากภายหลังมีเพศสัมพันธ์ประมาณ14วันขึ้นไปและผลการตรวจการตั้งครรภ์ไม่ท้องแล้ว อาจตรวจยืนยันผลในอีก1อาทิตย์ถัดไปครับ หากผลยังเป็นลบแสดงว่าไม่ตั้งครรภ์

ประจำเดือนอาจมาคลาดเคลื่อน ช้ากว่าปกติได้จากสาเหตุต่างๆเช่นจากการไใช้ยาคุมกำเนิดที่ทานไป ความเครียด กังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ เนื้องอกมดลูก เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ ฮอร์โมนไทรอยด์ไม่สมดุล ซีสต์ที่รังไข่เป็นต้น หากประจำเดือนยังขาดหายไปนานกว่า1เดือน หรือมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและผลการตรวจไม่ตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทยืเพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาอย่างเหมาะสมครับ

ในกรณีนี้หลังจากเดือนพคยังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันอีกหรือไม่ครับ หากมีอีกก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ แต่กรณีที่ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์อีกหากมีการตั้งครรภ์จริงๆ ในกรณี 2. เดือนควรจะตรวจการตั้งครรภ์พบครับ ซึ่งหากไม่มั่นใจแนะนำให้ไปตรวจการตั้งครรภ์ที่โรงพยาบาลครับ

ส่วนสาเหตุอื่นๆเช่น
1.ความเครียด การอดอาหารนานๆ และการออกกำลังกายอยางหักโหมมากเกินไป ทำให้ประจำเดือนขาดได้ครับ พบได้บ่อยที่สุด
2.การใช้ยาฮอร์โมนต่างๆ เช่น ยาคุมกำเนิด แบบฉีด หรือยาบางอย่าง เช่น ยารักษาโรคทางจิตเวช
3.โรคทางระบบสืบพันธ์บางชนิด เช่น ถุงน้ำรังไข่ ( PCOS) อาจทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติได้ หรือ การ ติดเชื้อ ทางเพศสัมพันธ์ อาจมำให้มีอาการปวดท้อง หรือ ตกขาว ที่ผิดปกติได้ ซึ่ง ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย

4.ฮอร์โมน ไทรอยด์ผิดปกติ ซึ่งจะต้องทีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ใจสั่น กินจุ น้ำหนักลด หรือ ฮอร์โมนจากรังไข่ผิดปกติ อาจทำให้ไม่เกิดการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ไม่มา หรือมาแบบกระปริบกระปรอย เป็นต้นครับ
5. โรคทางการกินที่ผิดปกติ (anorexia) ซึ่งเป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ่ง หากอดอาหาร หรือทานอาหารไม่ถูกวิธีนานๆ จะทำให้ขาดประจำเดือนได้ครับ

ถ้าคนไข้มีอาการต่างๆที่ผิดปกติดังที่กล่าวไป แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายหรือตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
หากประจำเดือนมาล่าช้ากว่าปกติ และไม่ได้เป็นมาติดต่อกันนานเกิน 3 ครั้ง ก็ให้รอดูอาการก่อนได้ครับ หากเกิน 3 เดือนประจำเดือนไม่มา แนะนำให้ไปตรวจร่างกาย และตรวจภายในเพิ่มเติมนะครับ
อนึ่ง การทำใจให้สบาย พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ระมัดระวังเรื่องการใช้ยาหรืออาหารเสริมที่แพทย์ไม่ได้สั่ง และออกกำลังกาย จะช่วยให้สมดุลฮอร์โมนดีและทำให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอครับ

สวัสดีครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ประเมินวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ที่ผ่านมาดูก่อนว่าได้ตรวจไปอย่างถูกต้องหรือไม่ครับ
การตรวจการตั้งครรภ์ที่จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้นั้นจะต้องเป็นการตรวจเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ จึงจะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากยังตรวจการตั้งครรภ์ได้ไม่ถูกต้องหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ใหม่ในเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง แต่ถ้าหากได้ตรวจอย่างถูกต้องแล้วประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

ส่วนการรับประทานยาสตรีฟลอร่านั้นจะไม่มีผลช่วยป้องกันการตั้งครรภ์หรือทำให้ประจำเดือนมาครับ ในตอนนี้หมอแนะนำให้หยุดรับประทานยาไปก่อนครับ

อาจเป็นดังที่หมอกล่าวไปข้างต้นครับ
หากกังวลใจ แนะนำให้พบแพทย์ครับ

หากผู้ถามใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ

การใช้ยาสตรี เมื่อมีเลือดออกมาอาจบอกได้ยากว่าเป็นเลือดที่ออกมาผิดปกติจากผลของยาสตรีหรือไม่นะคะ

ดังนั้น หากผู้ถามไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ หรือถ้ารู้สึกกังวลใจมาก แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงและพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมดีกว่าค่ะ

ถ้าหากได้ตรวจอย่างถูกต้องแล้วประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

แต่ถ้าหากยังตรวจการตั้งครรภ์ได้ไม่ถูกต้องก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ใหม่ในเวลาที่เหมาะสมอีกครั้งครับ