September 13, 2019 17:05
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
1. ภายหลังการหยุดฉีดยาคุมกำเนิดต่อเนื่องนั้น มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ทันทีค่ะ หากไม่ได้ป้องกันโดยวิธีอื่นๆใดต่อ
2. อาการเลือดออกทางช่องคลอด สามารถเกิดได้หลายสาเหตุค่ะ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป ช่องคลอดแห้งระคาย เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ มะเร็งปากมดลูก เนื้องอกในมดลูก อุ้งเชิงกรานอักเสบ เป็นต้นค่ะ แต่ละโรคก็จะมีอาการแสดงร่วมอื่นๆที่ทำให้นึกถึงต่างกันไปค่ะ และอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดนั้น ไม่ได้เป็นการบ่งบอกการตั้งครรภ์ หรือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ หากสงสัยหรือมีประวัติมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน ควรตรวจครรภ์ก่อน เพื่อให้การวินิจฉัยแยกโรคแคบลงค่ะ
กรณีของผู้ถาม มีอาการปวดท้องน้อย ร่วมกับมีอาการเลทอดออกผิดปกติทางช่องค
ลอดนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดจากโรคของระบบสืบพันธ์ภายในเพศหญิงค่ะ ได้แก่ โรคเชิงกรานอักเสบ โรคปากมดลูกอักเสบ โรคเนื้องอกในมดลูก เป็นต้น
การไปพบแพทย์เพื่อตรวจภายใน และวินิจฉัยนั้น จะทำให้การรักษาเป็นไปได้อย่างเหมาะสมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ พอดีหนูฉีดยาคุมแบบเดือนละ1เข็มมาระยะเวลา2ปีกว่าแล้วหยุดฉีดมาได้1ปีแล้วค่ะ 👉 ปัญหาของหนูคือตอนที่หนูหยุดฉีดยาคุมเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ.2561ประจำเดือนมาตรงทุกเดือนค่ะ แล้วพอถึงเดือนเมษายน พ.ศ.2562 ประจำเดือนหนูขาดค่ะ ขาดไปประมาน4เดือนนิดๆ แล้วพอมาวันนี้วันที่13 กันยายน พ.ศ.2562 หนูมีอาการปวดหน่วงๆท้องน้อย และมีเลือดออกคล้ายประจำเดือนแต่น้อยกว่าประจำเดือนค่ะ คำถามคือ หนูจะมีโอกาสเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับมดลูกหรือป่าวคะ แล้วหนูจะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อีกเมื่อไหร่คะ ขอบคุณค่ะ😁
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)