สวัสดีครับ ผมมีอาการคันมากๆบริเวณขาหนีบครับ แต่ผมเผลอไปเกาจนเป็นแผล และเหมือนจะมีขุยๆติดมาด้วย เสื้อผ้าผมก้ใส่เปลี่ยนทุกวัน ซักทุกอาทิตย์ แต่ที่ก่อนจะเป็นผมเดินทางไกล วันนั้นเหงื่อน่าจะออกด้วยบวกกับขนบริเวณนั้นมันเสียดสีกัน ผมก้รู้สึกแสบๆ แต่ที่ผมสงใสคือ 1.อาการแบบนี้ผมเป็นอะไร? 2.ยาตัวไหนรักษาให้หายได้บ้าง? 3.เป็นแล้วมีโอกาศเป็นอีกไหมครับ? 4.วิธีกาดูแลตัวเองยังไงในช่วงนี้? 5.ผมควรจะโกนขนออกไหม

สวัสดีค่ะ อาการคล้ายการติดเชื้อราที่ผิวหนัง อาการคือจะมีผื่นเป็นวงแดง คัน หากเป็นเชื้อราบริเวณขาหนีบจริง (tinea cruris) ลักษณะจะเป็นผื่นขอบแดง คันมาก อาจะมีจุดๆแดงรอบๆรอยขอบแดงค่ะ
โรคที่อาจสับสนได้ คือมีรอยโรคและอาการคล้ายกัน ได้แก่ ผื่นแพ้ (allergic contact dermatitis) รูขุมขนอักเสบ (folliculitis) การรักษาก็จะแตกต่างกันอออกไปค่ะ

การรักษาให้หายขาดสำหรับโรคเชื้อรา คือ
1.ช่วงนี้แนะนำให้ไปพบแพทย์เพื่อให้ยาทา หรือยากินที่เหมาะสม
2. พยายามลดน้ำหนักในรายที่น้ำหนักเกิน ซึ่งเป็นสาเหตุของความอับชื้นได้
3.การรักษาโดยใช้ยาฆ่าเชื้อรา อาจใช้เป็นยา clotrimazole ทา 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน นานประมาณ 4 สัปดาห์
4.หากอาการไม่ดีขึ้นหลังจากรักษาเชื้อรา ต้องมองหาสาเหตุอื่นที่ทำให้เป็นเรื้อรังร่วมด้วยเช่น เบาหวาน หรือ โรคทางภูมิคุ้มกันอื่นๆ ที่เกิดร่วมขึ้นมา
ไม่ต้องโกนขน เนื่องจากการโกนขนอาจะทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดแผล อาจจะเกิดการติดเชื้อตามมาค่ะ
หากไม่แน่ใจ หรือรักษาแล้วไม่ได้ผล แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์ เพื่อได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนเริ่มยาค่ะ

สวัสดีค่ะ อาการดังกล่าว สามารถเป็นได้หลายอย่าวค่ะ ตัวอย่างเช่น
1.อาการแพ้เหงื่อค่ะ อาจมีผื่นแดงขึ้นเล็กๆน้อยๆ และมีอาการคัน เมื่อทำความสะอาด หรือเหงื่อแห้ง ก็หายไปได้เองค่ะ
2.โรคกลาก อาการคือจะมีผื่นเป็นวงแดง คัน สามารถเกิดตามที่ต่างๆได้ เช่น หัว ลำตัว เท้า เล็บ ผม อาการคื จะมีอาการคัน ดโดยเฉพาะในค่มผ้าและจุดอับชื้น ค่ะ

***การรักษา ควรจะต้องรักษาตามสาเหตุค่ะ อย่างเช่น กลาก ก็ควรจะต้องได้รับยาฆ่าเชื้อรา หรือ แขมพูฆ่าเชื้อราค่ะ
แต่ถ้าเป็นผื่นแพ้ ก็อาจจะเป็นยาสเตีรอย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่แนะนำเป็นพื้นฐาน คือ
การรักษาสุขอนามัยบริเวณดังกล่าวสม่ำเสมอ
ไม่ให้อับชื้น งดการใส่กางเกงคับๆ ไม่ใส่เสื้อผ้าซ้ำ และเสื้อผ้า ต้องแห้ง โปร่ง สบายเสมอค่ะ

>>>อาการดังกล่าว หากรักษาสุขอยามัยไม่ดี สาทารถเป็นซ้ำได้เรื่อยๆนะคะ

>>และ คนไข้ ไม่จำเป็นต้องโกนขนค่ะ เนื่องจาก หากโกนขน อาจมีความเสี่ยงที่จะทำให้เชื้อโรคเข้าไปที่ผิวหนังที่ได้รับบาดเจ็บจากการโกรทและทำให้ติดเชื้อ หรือ มีรูขุมขนอักเสบได้ค่ะ