นิ้วเท้างอจิก คือภาวะที่นิ้วเท้างอหรือเอนจนทำให้เท้ามีรูปร่างคล้ายกงเล็บ ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิด หรืออาจเกิดตอนอายุมากแล้วก็ได้ ภาวะนี้มักไม่ใช่ปัญหาร้ายแรงนัก แต่บางครั้งก็อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพอื่นๆ เช่น โรคสมองพิการ หรือโรคเบาหวาน
อาการของภาวะนิ้วเท้างอจิก
ภาวะนิ้วเท้างอจิก จะทำให้ข้อต่อของนิ้วเท้าที่อยู่ใกล้กับข้อเท้าชี้ขึ้น ในขณะที่ข้อต่อส่วนที่เหลือของนิ้วเท้าจะหักลง ทำให้นิ้วเท้ามีลักษณะคล้ายกงเล็บ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
แม้ภาวะนิ้วเท้างอจิกส่วนมากจะไม่ได้ทำให้เกิดความเจ็บปวดใดๆ แต่ในบางคนอาจรู้สึกเจ็บนิ้วเท้า และอาจทำให้เกิดกระเปาะหรือแผลเยื่อบุบนตำแหน่งที่เสียดสีกับรองเท้า
สาเหตุการเกิดภาวะนิ้วเท้างอจิก
ภาวะนิ้วเท้างอจิก สามารถเกิดได้จากสาเหตุหลายอย่าง เช่น การผ่าตัด การบาดเจ็บที่ข้อเท้า ความเสียหายที่เส้นประสาทที่ทำให้กล้ามเนื้อเท้าอ่อนแรง หรือการอักเสบที่เท้าจนทำให้นิ้วเท้าหักงอ เป็นต้น และยังมีภาวะสุขภาพมากมายที่ทำให้เกิดภาวะนิ้วเท้างอจิก ดังนี้
- โรคข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) เป็นภาวะภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง (Autoimmune Disorder) ที่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันเข้าโจมตีเนื้อเยื่อสุขภาพดีในข้อต่อ ทำให้ผนังเยื่อบุข้อต่ออักเสบจนข้อต่อผิดรูป
- โรคสมองพิการ (Cerebral Palsy) ภาวะที่ส่งผลต่อความตึงของกล้ามเนื้อจนทำให้กล้ามเนื้อแข็งหรือหลวมเกินไป โรคนี้อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาของสมองที่ผิดปกติตั้งแต่เกิดหรือจากความเสียหายของสมองระหว่างคลอด
- เบาหวาน (Diabetes) โรคที่เกิดจากการมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเกิดจากภาวะดื้ออินซูลินหรือจากการที่ร่างกายมีกระบวนการผลิตอินซูลินไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ส่งผลให้เกิดความเสียหายที่เส้นประสาท โดยเฉพาะที่เท้า
- โรคในระบบประสาท (Charcot-Marie-Tooth Disease) ภาวะผิดปกติทางพันธุกรรมชนิดหายากที่ส่งผลต่อระบบประสาท ผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการเท้าอ่อนแรงและนิ้วเท้าผิดรูป
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ภาวะนี้จะเกิดขึ้นเมื่อเลือดที่ไหลไปเลี้ยงสมองถูกขัดขวางจากลิ่มเลือดหรือหลอดเลือดอ่อนแอ ทำให้เกิดความเสียหายที่เส้นประสาทชนิดร้ายแรงและส่งผลต่อกล้ามเนื้อต่างๆ รวมถึงกล้ามเนื้อเท้า
เมื่อใดที่ควรไปพบแพทย์?
หากพบว่านิ้วเท้าเริ่มมีอาการจะหักงอเป็นกงเล็บ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพราะในช่วงแรกนิ้วเท้าอาจจะยังคงมีความยืดหยุ่นอยู่บ้าง การเข้าพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและรักษาแต่เนิ่นๆ จะช่วยป้องกันไม่ให้นิ้วเท้างอจิกไปมากกว่านี้ได้ และแพทย์อาจรักษาภาวะผิดปกติต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของภาวะนิ้วเท้างอจิก เช่น โรคเบาหวานหรือโรคข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ได้อีกด้วย
การรักษาภาวะนิ้วเท้างอจิก
หากนิ้วเท้ายังคงมีความยืดหยุ่นคงเหลืออยู่ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยใช้วิธีพันนิ้วเท้าและสวมเฝือกดามให้นิ้วเท้าทั้งหมดอยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น พร้อมกับสอนวิธีบริหารนิ้วเท้าด้วยตนเองที่บ้าน เพื่อให้ผู้ป่วยคงระดับความยืดหยุ่นของนิ้วเท้าไว้
ถ้าการรักษาข้างต้นไม่ได้ทำให้อาการดีขึ้น แพทย์อาจแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดเพื่อลดความยาวกระดูกที่ฐานนิ้วเท้า ซึ่งจะทำให้นิ้วเท้ามีที่ว่างพอจะชี้ไปข้างหน้าตามปกติ และหากภาวะนิ้วเท้างอจิกมีความเชื่อมโยงกับภาวะผิดปกติอื่น แพทย์อาจแนะนำการใช้ยา การผ่าตัด หรือการรักษาตามความเหมาะสมของกรณี
ทำไม่ ต้องอ้วนลงพุ่งค่ะ