อายุ 20 ปีค่ะ พอดีวันที่ 20 พฤศจิกายน มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วแฟนหลั่งนอกค่ะ แล้วกินยาคุมฉุกเฉินไปวันที่ 21 พฤศจิกายน ทานแบบเม็ดเดียวค่ะ ครั้งนี้เป็นการกินยาคุมครั้งที่สามในชีวิต ปัจจุบันวันที่ 7 ธันวาคม ประจำเดือนยังไม่มา มีสิทธิ์ตั้งครรภ์ไหมคะ

สวัสดีครับ
มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ
การคุมกำเนิดแบบหลั่งภายนอกมีโอกาสการตั้งครรภ์ได้ประมาณร้อยละ 4-22 ครับ และการทานยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินภายใน 72 ชม. จะสามารถลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ 80% ครับ อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีที่ขาดประจำเดือนนั้น แนะนำให้หาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์ตามร้านขายยาทั่วไปมาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ หากทดสอบการตั้งครรภ์อย่างถูกวิธี ผลการทดสอบมีความน่าเชื่อถือสูงมากครับ
หากไม่มีการตั้งครรภ์ การขาดประจำเดือนอาจเกิดได้จากสาเหตุต่างๆ เช่น ไข่ไม่ตก ฮอร์โมนเพศผิดปกติ มีถุงน้ำในรังไข่หลายใบ ความเครียด เป็นต้น ถ้าประจำเดือนขาดเกินสามเดือน นแะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจหาสาเหตุเพิ่มเติมครับ

สวัสดีค่ะ

การมีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22%ค่ะ ซึ่งถือว่าสูง ดังนั้นการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์เป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วค่ะ ซึ่งถ้าทานภายใน 72 ชั่วโมงยาคุมจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% และยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ แต่มักไม่เกิน 1 สัปดาห์ กรณีสงสัยการตั้งครรภ์สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เมื่อมีเพศสัมพันธ์ผ่านมาแล้ว 14 วัน และตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ

สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ แต่ถ้าหากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปหลังจากนั้นแล้วโอกาสตั้งครรภ์ก็จะลดลงไปได้ประมาณ 75-85%

อย่างไรก็ตามหลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินประจำเดือนก็ควรจะยังมาตามปกติอยู่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันให้แน่ใจก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ ประจำเดือนก็อาจมาช้าได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
เป็นต้น
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้อีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุครับ

อาการปวดท้องน้อยและมีเลือดปนออกมาในตกขาวนั้นอาจเกิดได้จากทั้งเป็นอาการนำก่อนมีประจำเดือนและจากการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานครับ

ถ้าหากเลือดและตกขาวที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมาก มีอาการปวดท้องรุนแรง มีกลิ่นเหม็น หรือทำให้เกิดอาการคัน หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ

ลักษณะของประจำเดือนที่ปกติจะเป็นดังนี้ครับ
- มาห่างกันอย่างสม่ำเสมอรอบละ 21-35 วัน
- มาติดต่อกันนาน 3-7 วัน
- ใช้ผ้าอนามัยวันละ 2-3 แผ่น
- มีลักษณะเป็นเลือดเก่าสีคล้ำ

ถ้าหากลักษณะเลือดที่ออกมาเป็นตามนี้ก็มีโอกาสที่จะเป็นประจำเดือนได้ครับ แต่ถ้าหากยังไม่มั่นใจว่าเลือดที่ออกมาใช่ประจำเดือนหรือไม่ หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูตามช่วงเวลาที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ