June 02, 2019 16:32
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
จริงๆเรื่องประสิทธิภาพใกล้เคียงกันครับ เเต่เเบบฉีดจะมีเเบบฉีดทุก1เดือนหรือ3เดือน เเต่เเบบฝังจะฝังได้3-5ปี
หมอขอเเนะนำวิธีคุมกำเนิดคร่าวๆนะครับ
................
ยาคุมกำเนิดรายเดือน คุมกำเนิดได้ดี มีประจำเดือนตามรอบ รุ่นใหม่ๆลดสิวได้ เเต่ต้องกินทุกวัน อาจลืมได้ ผลข้างเคียง มีเลือดออกกระปริบกระปรอย เกิดฝ้าได้ ต้องระวังในคนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจ\หลอดเลือดสมอง
..............
ยาฉีดคุมกำเนิด ฉีดเข็มเดียวได้3เดือน คุมกำเนิดได้ดี เเต่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอย เดือนหลังๆมักจะค่อยๆหายไปจนไม่มีประจำเดือน น้ำหนักขึ้น สิวขึ้นได้ หากหยุดฉีดเเล้วต้องการให้ประจำเดือนมาปกติพร้อมที่จะมีลูกอีกครั้งใช้เวลานาน 9-12 เดือนครับ (เเบบฉีดราย 1 เดือนก็มีครับ ประจำเดือนตามรอบเหมือนยากินเเบบฮอร์โมนรวมครับ)
.................
ยาฝังคุมกำเนิด ฝังหนึ่งครั้งได้3-5ปี คุมกำเนิดได้ดี เเต่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ ราคาค่อนข้างสูง เเต่สาธารณสุขเหมือนจะมีโครงการฝังฟรีครับ เวลาฝังอาจเจ็บได้ ต้องมาเอาออกเวลาครบกำหนด
................
การทำหมัน ชาย เเละ หญิง คุมกำเนิดได้ดี ไม่มีผลกระทบกับอารมณ์ทางเพศ เพียงเเต่เเก้ยากหากต้องการมีบุตรอีก ต้องทำโดยเเพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
เป็นต้นครับ
.................
ยาคุมกำเนิดรายเดือน รุ่นใหม่ๆ เช่น Yaz Yasmin Oilezz พวกนี้มีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ สิวลดลงได้ครับ
การรับประทานให้รับประทานภายใน5วันตั้งเเต่วันเเรกที่มีประจำเดือนครับ ถ้ารับประทานวันเเรกที่ประจำเดือนมาได้จะดีมากครับ เพราะ มั่นใจว่าไม่ได้ตั้งครรภ์ และยาคมจะออกฤทธิ์ยับยั้งการตกไข่ได้ทันที (เเต่ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนประมาณ1อาทิตย์เพื่อความเเน่นอน)
..............
ถ้าชนิด28เม็ดให้รับประทานเเผงต่อเเผงได้เลย (7เม็ดสุดท้ายจะเป็นเเป้งไม่มีตัวยา)
ถ้าเป็น21เม็ดให้รับประทาน21เม็ด เเล้วเว้น7 วันเเล้วเริ่มแผงใหม่ครับ
การฉีดยาคุม
หลักๆจะมียาฉีดสองเเบบคือ เเบบสามเดือน(ฮอร์โมนเดี่ยว) กับแบบหนึ่งเดือน(ฮอร์โมนรวมครับ)
กรณีเป็นฮอร์โมนเดี่ยว(โปรเจสเตอโรน)ส่วนใหญ่ฉีดทุกสามเดือนครับ อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอย ประจำเดือนไม่มา น้ำหนักขึ้นได้ หากหยุดฉีดกว่าจะกลับมาตกไข่ มีลูกได้ใช้เวลาประมาณ10-12เดือนครับ
ส่วนฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน) จะฉีดทุก1เดือน หลังฉีด วันที่21เป็นต้นไป จะมีเลือดประจำเดือนตามรอบได้ครับ (คล้ายกินยาคุมแบบเเผง)
เเบบฮอร์โมนรวมถ้าหยุดฉีด เดือนถัดไป ไข่ตก มีลูกได้ตามรอบครับ
การเริ่มฉีด
-เริ่มใช้เข็มแรกภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้เลย มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้ไม่ต้องใช้ถุงยางครับ
- เริ่มใช้เข็มแรกหลังจากช่วง7วันเเรกของประจำเดือน ต้องมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ (เช่น หลังจากมีประจำเดือนล่าสุดจนถึงวันที่จะฉีดยา ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์) หลังฉีดจะยังไม่มีผลคุมกำเนิด ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนหรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปอีก 7 วันหลังฉีดยาครับ
........
การฉีดยาคุมรายสามเดือน ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ เลือดประจำเดือนออกกระปริบกระปรอยครับ บางคนฉีดไปนานๆ ประจำเดือนจะหายไปได้ ครับ หลังหยุดฉีดยา กว่าไข่จะตกมีประจำเดือนปกติได้ จะประมาณ9-12เดือนครับ(ดังนั้นหลังหยุดฉีด จะกลับมาท้องได้ช้ากว่าชนิดฉีดทุก1เดือน
หรือ ถ้าเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฉีดทุกหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นฮอร์โมนรวม ก็จะมีผลข้างเคียงเหมือนยาคุมเเบบเเผงรายเดือนครับ เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดเต้านม เวียนหัว เเต่จะมีประจำเดือนตามรอบ หยุดฉีดเเล้วกลับมาตกไข่ มีประจำเดือนได้เร็วครับ
ราคาของยาทั้งสองเเบบ จะประมาณ300-500บาทครับ
ยาฝังคุมกำเนิด
...........
ฝังหนึ่งครั้งได้3-5ปี คุมกำเนิดได้ดีมาก เเต่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ ราคาค่อนข้างสูง เเต่สาธารณสุขจะมีโครงการฝังฟรีครับถ้าอายุน้อยกว่า20ปี เวลาฝังอาจเจ็บได้ ต้องมาเอาออกเวลาครบกำหนด
...........
ถ้าอายุน้อยกว่า20ปี บริบูรณ์ ฝังยาคุมกำเนิดฟรีครับ(ปกติประมาณ2,500บาท ) สามารถติดต่อเเผนกสูตินรี ของรพ.ที่จะไปได้ครับ ว่ามีเปิดวันไหนบ้างครับ
...........
ฝังยาภายใน 5 วันแรกของประจำเดือน และแนะนำให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยก่อนใน 7 วันแรกหลังการฝังยา
โดยจะทำการฝังยาเข้าใต้ผิวหนัง บริเวณท้องแขนของแขนข้างที่ไม่ถนัดครับ ฉีดยาชา เเล้วใส่เเท่งยาเข้าไป ไม่ได้เจ็บมากครับ ห้านาทีก็เสร็จ
...........
ข้อสำคัญหลังการฝังยาคุมกำเนิด
-ในช่วงแรกของห้ามยกของหนัก
-แผลห้ามโดนน้ำประมาณ 3-4 วัน
-พยายามคลำยาที่ฝังเป็นประจำ เผื่อยามีการเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม
-สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังจาก7 วันหลังการฝังยาคุมกำเนิด
-การฝังยาคุมกำเนิด ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอถามเรื่องยาคุมกำเนิด 1.ยาคุมแบบฉีด และ แบบฝัง แบบไหนดีกว่ากันครับ แบบไหนที่มีโอกาสติดได้ลูกยากที่สุดครับ พอดีแฟนมีลูกง่ายมากครับ 2.ยาคุมแบบฉีด และ แบบฝัง ค่าใช่จ่ายในการทำอยุ่ที่เท่าไรครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)