August 29, 2018 22:26
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ก่อนจะรักษาควรได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้องก่อนค่ะ จึงจะเลือกการรักษาที่เหมาะสมได้ การเกิดตุ่มหรือผื่นที่เกิดบริเวณอวัยวะเพศเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์
- เริม มักเป็นตุ่มน้ำใสหลาย ๆ ตุ่ม ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดแสบร่วมด้วย แต่แยกค่อนข้างยากกับแผลริมอ่อนค่ะ ซึ่งทั้งสองกรณีการรักษาใช้ยาคนละตัวกัน ส่วนฝีมักจะเป็นหนอง ปวดขบ บางครั้งคลำได้ก้อนกดเจ็บ หากถามว่าจะเป็นอะไรได้มากกว่ากันจึงบอกได้ยากค่ะ ต้องตรวจโดยตรงร่วมกับส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการว่าเป็นเชื้ออะไร นอกจากนี้ยังเกิดจากโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆได้ เช่น
- แผลริมแข็ง หรือ ซิฟิลิส
- หนองใน
- หูดหงอนไก่
ฯลฯ
แต่ละโรคก็มีการรักษาต่างๆ กันไป บางโรคต้องรักษาคู่นอนด้วย หากเป็นจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็ควรสวมถุงยางอนามัย หากเกิดจากการติดเชื้อก็ควรรักษาความสะอาดและสุขอนามัยเบื้องต้น ที่สำคัญไม่ควรใช้มือเกาเพราะมือของเราสกปรกอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำซ้อนได้ ดังนั้นจึงแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการซักถามประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจทางห้องปฏิบัติการ หากมีความจำเป็นค่ะเพื่อช่วยในการวินิจฉัยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีตุ่มลักษณะคล้ายสิวสุกตรงบริเวณด้านในอวัยวะเพศชาย ตรงหัวอวัยวะเพศ มีทั้งหมด1ตุ่มซึ่งเป็นมา5วันแล้ว เมื่อสัมผัสมีความรู้สึกเจ็บแสบซึ่งค้นหาดูในเน็ตแล้วมีอาการคล้ายฝีกับเริม (มีแค่1ตุ่มเล็กๆเท่านั่น) ซึ่งผมไม่เคยเป็นเริมมาก่อน อยากจะทราบว่ามีโอกาศเป็นอันไหนได้มากกว่ากันครับ ขอบคุณครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)