September 16, 2019 07:00
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้เป็นอาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ครับ แต่ถ้าหากไม่ได้มีการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยวิธีใดเลยโอกาสตั้งครรภ์ก็ยังมีสูงอยู่ครับ
การมีอลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆนั้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- มีภาวะปากมดลูกปลิ้น
- มีการฉีกขาดของช่องคลอดหรือปากมดลูกจากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางอย่าง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- มีเนื้องอกบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใน
ซึ่งในกรณีนี้หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจภายในประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
ส่วนเรื่องการตั้งครรภ์นั้นก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูให้แน่ใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณค่ะ
หมอคะพอดีมีหนูsexกับแฟนวันที่11กับ15 กันยายน62ขณะที่มีอะไรอยู่ๆก็มีเลือดไหลออกมาจากช่องคลอดแล้วก็รู้สึกเจ็บๆแสบๆแต่ไม่ได้ป้องกันค่ะแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกนะคะที่เลือดไหลแบบนี้ 2เดือนก่อนหน้านี้มีsexกันปกติก็ไม่มีเลือดแต่ตอนมีsexก็ไม่เคยป้องกันแล้วหนูก็ไม่เคยกินยาคุมค่ะแต่หนูกับแฟนมีsexกันบ่อย มีผลต่อการตั้งครรภ์มั๊ยคะ แล้วที่เลือดไหลเกิดจากอะไรคะ เครียดมากค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)