ลูกอายุ18-ขึ้นม.6__เรัยนได้เกรดเฉลี่ย4.00_ช่วงนี้ลูกชอบหงุดหงิดถามอะไร ก็หงุดหงิด แล้วก้อห้ามแม่บอกคนอื่นว่าเรียนได้เกรดเท่าไร เมื่อก่อนไม่เป็นแบบนี้ ลูกเรียนดีมาตลอดเป็นปกติ ห่วงลูก เราควรจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้ลูกหายหงุดหงิดคะ...

ต้องดูอาการอื่นประกอบด้วยค่ะ เช่นการนอนหลับ อารมณ์เบื่อท้อแท้ /หงุดหงิด การทานอาหาร เก็บตัว ระแวง ได้ยินเสียงแปลกๆ ฯลฯ ถ้ามีอาการร่วมข้างต้น หมายความว่าเกิดความผิดปกติของสารเคมีในสมองควรไปพบจิตแพทย์ค่ะ และหากไม่มีอาการข้างต้นร่วม แต่หงุดหงิดฉุนเฉียวง่ายแบบนี้ก็คือความผิดปกติทางอารมณ์ก็ควรไปพบจิตแพทย์เช่นเดียวกันค่ะ

คิดว่าเป็นปกติของเด็กวัยนี้นะคะ อีกอย่างกำลังจะขึ้นม.6ซึ่งเป็นปีที่เตรียมสอบเข้ามหาลัย คงมีความเครียดเป็นธรรมดา ถ้าน้องเขาไม่ได้เครียดถึงขนาดนอนไม่หลับหรือทำให้คนอื่นรอบข้างเดือดร้อนมากก็ไม่ต้องกังวลค่ะ แต่ถ้าเครียดแบบที่คุณแม่สังเกตแล้วว่าผิดปกติ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ค่ะ

ลูกเรียนได้ดี เรียนเก่ง
แต่อีกแง่ ก็จะมีความรู้สึกถูกกดดัน และเครียด เกรงว่า ผลการเรียนจะตกลง หรือไม่ดีคงที่
บุคคลรอบข้าง เช่น พ่อแม่ บุคคลในครอบครัว คุณครู เพื่อน ก็อาจสร้างความกดดันให้ โดยไม่รู้ตัว ด้วยความคาดหวัง
เรียกได้ว่า มีความเครียดเพราะความคาดหวังจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะที่สำคัญอย่างยิ่งคือ คุณพ่อ คุณแม่
อย่าพูดคุย อวด การเรียนดีของลูกกับคนอื่น ๆ เพราะ เป็นการสร้างความกดดันให้ลูกโดยอ้อม ให้คิดเสียว่าลูกเรียนดี ก็ภูมิใจในตัวเอง ก็พอแล้ว
สิ่งที่คุณแม่ทำได้ และควรทำ คือ พูดและแสดงออก ทั้งโจ่งแจ้ง และโดยอ้อม ๆ(แบบไม่รู้ตัว) ว่า ลูกจะเรียนได้เท่าไร หรือ การเรียนตกลง ก็ไม่เป็นไร แม่ยังรักลูกอยู่ สม่ำเสมอ ถึงแม้การเรียนจะตกลงบ้าง ก็ไม่ได้รักลูกลดลง

อย่าไปคาดหวังว่า ลูกจะต้องเรียนดี ต้องสอบได้ที่นั่น ที่นี่ เพราะเป็นการสร้างความเครียด ความกดดันให้ลูก
ให้ลูกใช้ศักยภาพของตนให้เต็มที่ แล้ว ได้เท่าไร ก็ยอมรับได้ อย่าเคี่ยวเข็ญ จนเกินกำลังที่ลูกจะทำได้ ในท่ามกลางการสอบแข่งขันที่สูงยิ่งในปัจจุบัน

เด็กที่พลาดหวังจากการเรียน จนมีข่าวว่าฆ่าตัวตาย ก็เป็นเด็กเรียนดีทั้งนั้น แต่โดนกดดันจากคนรอบข้างโดยเฉพาะ พ่อแม่
เด็กไม่อยากทำให้คนที่คาดหวังตนเอง ต้องผิดหวัง