มีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์ ปวดท้องหน่วงบ่อย ท้องโตเหมือนคนท้อง ฉี่บ่อยกว่าปกติ มากกว่า4ครั้งต่อคืน

สวัสดีค่ะ อาการดังกล่าว ต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียดเพิ่มเติม รวมถึงข้อมูลอย่างหนึ่ง ที่ต้องทราบเลย คือ คนไข้ ตั้งครรภ์หรือไม่ค่ะ เนื่องจากการวินิจฉัย จะเป็นคนละอย่าง และ การรักษา แตกต่างกันค่อนข้างมากค่ะ ดังนั้น เบื้องต้น หากคนไข้มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เช้น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ควรตรวจการตั้งครรภ์ก่อนนะคะ โดย คนไข้สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุดประมาณ 14 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์ค่ะ (ทางปัสสาวะ) แต่ถ้าไปตรวจเลือดที่ รพ เร็วที่สุด 10 วัน หลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ หากตรวจการตั้งครรภ์ ไม่พบการตั้งครรภ์ สาเหตุที่ทำให้เลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ เช่น 1.บาดแผลที่เกิดขึ้นขณะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ อาจจะท่าท่า ความรุนแรง หรือช่วงที่ทำช่องคลอดแห้ง ก็อาจจะมีเลือดออกได้ เลือดที่ออก อาจจะเล็กน้อย เช่น บาดแผลภายนอก หรือถ้ารุนแรงไปจนถึงช่องคลอดหรือป่กมดลูกฉีกขาด ก็อาจจะมีเลือดออกได้มาก 2.การ ติดเชื้อ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาจทำให้มีเลือดออก และตกขาวที่ผิดปกติได้ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน หนองในแท้ หนองในเทียม ซิฟิลิส เป็นต้น คนไข้อาจจะมีเลือดออก ร่วมกับมีตกขาวสีผิดปกติ เช่นทสีเขียว สีเหลือง หรือตกขาวมีกลิ่นเหม็น อาจมีอาการแสบ คันช่องคลอด บางคน อาจมีปวดท้องน้อยหรือมีไข้ร่วมด้วย 3. ติ่งเนื้อในช่องคลอด / ปากมดลูก ( polyp) เมื่อโดนกระทบกระแทก อาจมีเลือดออกได้ง่าย 4. เนื้องอก ทั้งเนื้องอกที่เป็นมะเร็วและไม่เป็นมะเร็งในช่องคลอด หรือ ปากมดลูก 5. เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ อาจทำให้มีเลือกออกขณะ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ บางคนอาจมีอาการปวดประจำเดือนมากกว่าปกติด้วยค่ะ 6. ช่องคลอดแห้ง / ช่องคลอดอักเสบ อาจเกิดจาก ความไม่พร้อม/น้ำหล่อลื่นน้อย หรือ ขาดฮอร์โมนเพศ เช่น หลังผ่าตัดรังไข่ ผู้หญิงอายุมาก เป็นต้น ยังมีอีกหลายสาเหตุ ที่อาจพบได้ค่ะ ซึ่งต้องใช้การตรวจร่างกาย ตรวจภายใน และอาจจะต้องมีการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมค่ะ จึงแนะนำให้คนไข้ไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่ รพ นะคะ แต่หากตรวจพบการตั้งครรภ์ คใรไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูเด็กค่ะ เนื่องจากอาจมีผลมาจากหลายอย่าง เช่น แท้งคุกคาม รกเกาะต่ำ เป็นต้นค่ะ