อาการ “ปวดท้อง” สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และพบได้ทั่วไป ทั้งนี้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดท้องจะรู้สึกไม่สบายตัวหรืออึดอัด ทำให้กระทบต่อการทำงาน หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่มักปวดท้องเป็นประจำ มันเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรรู้ว่ามีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้คุณปวดท้อง เพื่อที่คุณจะได้แก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมหลากสาเหตุที่เป็นไปได้มาให้คุณอ่านดังนี้
1. แพ้แลคโตส
ร่างกายของเราจำเป็นต้องผลิตแลคเตสเพื่อย่อยสลายนม แต่มีคนกว่า 40% ที่ร่างกายหยุดผลิตแลคเตสตั้งแต่อายุประมาณ 2 ขวบ หากคุณเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนี้ คุณอาจพบว่าตัวเองมีอาการปวดท้อง ท้องอืด มีก๊าซ หรือท้องเสียหลังจากดื่มนม ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าร่างกายไม่สามารถย่อยน้ำตาลในนม ทำให้นมไปสะสมอยู่ในลำไส้ใหญ่ และทำให้ก๊าซก่อตัวขึ้นได้ในที่สุด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2. ความเครียด
ระบบประสาทที่อยู่ในผนังของทางเดินอาหาร (Enteric nervous system) มีความเชื่อมโยงกับระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อคุณเครียด เลือดจะไหลออกจากลำไส้ไปยังสมองและแขน ส่งผลให้อาหารย่อยได้ช้าลง และนั่นอาจทำให้เกิดปัญหาบริเวณท้องได้ในที่สุด
3. ผลข้างเคียงของยา
ยาบางชนิดที่คุณทานสามารถทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น อาการปวดท้องสามารถเป็นผลมาจากการท้องเสีย ซึ่งเป็นผลข้างเคียงของการทานยาปฏิชีวนะ ในขณะที่ยาบางชนิดสามารถทำให้ท้องผูก ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดความรู้สึกปวดท้อง นอกจากนี้การทานยาไอบูโพรเฟนยังทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารต้านทานกรดได้ยากขึ้น และทำให้เยื่อเกิดการอักเสบ
4. แพ้กลูเตน
กลูเตนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้มากในข้าวสาลี บาร์เลย์ และไรย์ ซึ่งมันสามารถทำให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อสุขภาพ ทั้งนี้บางคนอาจรู้สึกไม่สบายตัวเพราะท้องอืด ท้องเสีย และท้องผูก หากคุณไม่แน่ใจว่าแพ้กลูเตนหรือไม่ ให้คุณลดการทานกลูเตน หรือเลิกทานกลูเตนชั่วคราว แล้วลองสังเกตว่าอาการดีขึ้นหรือไม่
5. โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ทางเดินปัสสาวะจะมีความยาวเริ่มตั้งแต่ไต และไปสิ้นสุดที่ท่อปัสสาวะ ทั้งนี้การเป็นโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะสามารถส่งผลต่อทางเดินปัสสาวะ ณ ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง และผู้ป่วยมักมีอาการปวดท้อง โดยเฉพาะบริเวณเชิงกราน รวมถึงอาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย ส่งผลให้ท้องไส้ปั่นป่วนได้ในที่สุด
6. อาหารไม่ย่อย
คนที่มีอาการอาหารไม่ย่อยมักจะเกิดความรู้สึกอิ่ม แม้ว่าจะทานอาหารไปได้ไม่นาน รวมถึงมีอาการท้องอืด ทั้งนี้อาการอาหารไม่ย่อยสามารถเป็นผลข้างเคียงของโรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร ซึ่งคุณอาจรักษาตัวโดยปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ให้เหมาะสม
7. โรคกรดไหลย้อน
โรคกรดไหลย้อนเกิดขึ้นเมื่อกรดในกระเพาะอาหารไหลมายังหลอดอาหาร ซึ่งเกิดขึ้นเพราะหูรูดตรงกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ ทำให้ผู้ป่วยมีอาการแสบร้อนกลางอก หากเกิดร่วมกับอาการปวดท้อง คุณก็ควรไปพบแพทย์ค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
8. ท้องผูก
คนที่เผชิญกับภาวะท้องผูกจะขับถ่ายได้ยากลำบากกว่าเดิม ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ณ ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง และเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด ภาวะขาดน้ำ การทานอาหารที่มีไฟเบอร์ไม่เพียงพอ ฯลฯ นอกจากจะมีปัญหาในการขับถ่ายแล้ว ผู้ป่วยก็อาจรู้สึกปวดท้องเช่นกัน
9. ก๊าซ
การมีก๊าซในร่างกายสามารถทำให้คุณปวดท้องได้เช่นกัน ซึ่งมันสามารถทำให้ท้องของคุณดูบวมขึ้น อย่างไรก็ตาม ก๊าซไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยไม่มีที่มาที่ไป เพราะมันมักมีตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดก๊าซในร่างกาย สำหรับสาเหตุที่เป็นไปได้ เช่น การเป็นโรคกรดไหลย้อน ท้องผูก การแพ้แลคโตส การแพ้กลูเตน ฯลฯ
จากที่กล่าวไป คุณจะเห็นได้ว่าอาการปวดท้องสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ หากคุณรู้ตัวว่าปวดท้องบ่อยจนผิดสังเกต การไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ