การมีริมฝีปากบนที่หมองคล้ำนับว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงหลายคนรู้สึกอายและกังวล ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การทานยาคุมกำเนิด หรือการตั้งครรภ์ ซึ่งล้วนแต่กระตุ้นให้มีการผลิตเมลานินออกมามากกว่าปกติ นอกจากนี้การกำจัดขนไม่เหมาะสม การสูบบุหรี่มากเกินไป หรือสัมผัสกับแสงอาทิตย์ก็ล้วนแต่ทำให้ริมฝีปากหมองคล้ำเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใด คุณสามารถบรรเทาปัญหาโดยใช้วิธีที่เราจะแนะนำหลังจากนี้ แม้ว่าไม่เห็นผลในชั่วข้ามคืน แต่หากใช้เป็นประจำ รับรองว่าสภาพริมฝีปากของคุณจะดูดีขึ้น
1.เลมอน
คุณสามารถใช้น้ำเลมอนช่วยให้ริมฝีปากบนกระจ่างใสขึ้น ซึ่งกรดซิตริกในเลมอนเป็นสารฟอกขาวตามธรรมชาติ นอกจากนี้มันยังช่วยผลัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว สำหรับวิธีใช้มีดังนี้
รักษารอยแตกลาย รอยคล้ำ วันนี้ ที่คลินิกใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 437 บาท ลดสูงสุด 89%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
- บีบเลมอน และนำน้ำมาทาที่ริมฝีปาก นวดเบาๆ เป็นเวลา 1 นาที แล้วปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นให้ล้างด้วยน้ำอุ่นในตอนเช้าวันถัดมา เช็ดริมฝีปากให้แห้งและทาลิปบาล์มตามลงไป โดยให้คุณทำเช่นนี้เป็นเวลา 1-2 เดือน หรือคุณจะผสมน้ำเลมอน กลีเซอรีน และน้ำผึ้งอย่างละ ½ ช้อนชา แล้วนำมาทาริมฝีปากก่อนเข้านอน ให้คุณทำเช่นนี้ทุกวันจนกว่าจะเห็นผลลัพธ์
2.น้ำผึ้ง
น้ำผึ้งถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยจากธรรมชาติที่เราอยากแนะนำ นอกจากช่วยให้ริมฝีปากกลับมาเป็นสีชมพูตามธรรมชาติแล้ว มันก็ยังทำให้ริมฝีปากนุ่มลงอีกด้วย อย่างไรก็ดี คุณสามารถใช้น้ำผึ้งโดย
- ทาน้ำผึ้งบนริมฝีปากก่อนเข้านอนและปล่อยทิ้งไว้ข้ามคืน จากนั้นให้ล้างออกในตอนเช้า โดยให้ทำเช่นนี้ทุกวัน
- ผสมน้ำผึ้ง ½ ช้อนชา และน้ำกุหลาบ 1 ช้อนชา แล้วนำมาทาที่ริมฝีปากบน ปล่อยทิ้งไว้ 20 นาทีก่อนที่จะล้างออกด้วยน้ำอุ่น โดยให้คุณทำเช่นนี้วันละครั้ง
- ผสมน้ำผึ้งและน้ำมะเขือเทศในอัตราส่วนเท่าๆ กัน และนำมาทาริมฝีปากที่หมองคล้ำ ปล่อยทิ้งไว้ 20-30 นาที แล้วค่อยล้างออกโดยใช้น้ำอุ่น โดยให้คุณทำวันละครั้ง
3.ขัดผิว
การขัดผิวเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่ช่วยให้ริมฝีปากบนดูกระจ่างใสขึ้น ซึ่งการทำสัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้งก็นับว่าเพียงพอแล้ว เพราะหากทำมากกว่านี้ มันก็สามารถทำให้สภาพริมฝีปากแย่ลงและทำให้เกิดรอยแดง การระคายเคือง หรือทำให้เจ็บ อย่างไรก็ดี การใช้น้ำตาลผสมกับน้ำมันมะกอกคือวิธีที่เราอยากแนะนำ ซึ่งคุณสามารถทำตามได้ดังนี้
- ผสมน้ำตาลทราย ½ ช้อนชา และน้ำมันมะกอกจนได้เนื้อที่สามารถนำมาทา
- นำส่วนผสมที่เตรียมไว้มาถูที่ริมฝีปากและบริเวณรอบๆ เป็นเวลา 1 นาที โดยให้เคลื่อนไหวเป็นแนววงกลมเพื่อกำจัดสะเก็ดหรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว
- ปล่อยทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น
- ซับริมฝีปากให้แห้ง แล้วทาลิปบาล์มตามลงไปเพื่อล็อคความชุ่มชื้น โดยให้ทำซ้ำสัปดาห์ละ 1 หรือ 2 ครั้ง
4.เติมความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก
การที่คุณจะมีริมฝีปากสีชมพูและนุ่ม คุณจำเป็นต้องรักษาความชุ่มชื้นทั้งจากภายนอกและภายใน ทั้งนี้ให้คุณใช้ลิปบาล์มที่มีส่วนผสมของโกโก้บัตเตอร์หรือเชียบัตเตอร์เพื่อรักษาความนุ่มและความชุ่มชื้น โดยให้ใช้วันละหลายครั้ง เพราะริมฝีปากมีแนวโน้มที่จะเสียความชุ่มชื้นเร็วกว่าส่วนอื่นๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ให้คุณพยายามดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้วต่อวัน รวมถึงทานผักผลไม้สดที่อุดมไปด้วยน้ำ เช่น ส้ม กีวี แตงโม แอปเปิ้ล แคนตาลูป เซเลอรี มะเขือเทศ แตงกวา ซูกินี แครอท ฯลฯ สำหรับอาหารที่เราอยากแนะนำเพิ่มเติมคือ วิตามินเอและวิตามินซี ซึ่งวิตามินเอช่วยรักษาและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ ในขณะที่วิตามินซีช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจน และปกป้องริมฝีปากจากรังสียูวี
5.กลีเซอรีน
กลีเซอรีนอุดมไปด้วยสารประกอบที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้มันช่วยปรับปรุงสภาพผิวของริมฝีปากที่หมองคล้ำ อีกทั้งยังทำให้ริมฝีปากนุ่มและเนียนเรียบ ยิ่งไปกว่านั้น กลีเซอรีนยังช่วยกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว อย่างไรก็ดี คุณสามารถใช้กลีเซอรีนโดย
- ทากลีเซอรีนบนริมฝีปากที่หมองคล้ำและนวดเบาๆ โดยใช้นิ้ว ให้คุณทำเช่นนี้ทุกวันก่อนเข้านอน และล้างออกด้วยน้ำอุ่นตอนเช้า
- ผสมกลีเซอรีนกับน้ำกุหลาบในอัตราส่วนเท่าๆ กัน จากนั้นให้ทาส่วนผสมที่เตรียมไว้บนริมฝีปาก 2-3 ครั้ง
6.กุหลาบ
กุหลาบไม่เพียงแต่มีกลิ่นที่หอมชวนดมเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้ความหมองคล้ำจางลง นอกจากนี้สารที่ช่วยปลอบปะโลม สารที่ช่วยลดอุณหภูมิ และสารที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นในกุหลาบยังทำให้ริมฝีปากนุ่มและรู้สึกสดชื่น อย่างไรก็ตาม คุณสามารถนำกุหลาบมาใช้โดย
- แช่กลีบกุหลาบ 3-4 กลีบในนมดิบ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาบด เติมน้ำผึ้ง 1 ช้อนชา และหญ้าฝรั่น 1 หยิบมือ หลังจากนั้นให้นำมาทาริมฝีปากและปล่อยทิ้งไว้ 15 นาที แล้วให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น โดยให้ทำเช่นนี้วันละครั้ง
- ผสมน้ำกุหลาบ 3 ช้อนโต๊ะกับกลีเซอรีน 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปเก็บในขวดสเปรย์ จากนั้นให้พ่นที่ริมฝีปากวันละครั้งเพื่อช่วยให้ริมฝีปากบนกระจ่างใส
7.เลิกสูบบุหรี่
คนที่สูบบุหรี่มากมีแนวโน้มที่จะมีริมฝีปากที่คล้ำเสียมากกว่าคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่ ทั้งนี้การสูบบุหรี่ทำให้ผิวขาดน้ำ ซึ่งสามารถทำให้ริมฝีปากแห้งแตกและคล้ำขึ้น ในเวลาเดียวกัน การสูบบุหรี่มากเกินไปสามารถทำให้ริมฝีปากไหม้ ทำให้เกิดรอยหมองคล้ำที่ริมฝีปากนั่นเอง ดังนั้นถ้าอยากมีริมฝีปากสีชมพู คุณก็ควรพยายามเลิกบุหรี่ให้ได้
8.หลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปาก
การที่คุณจะกลับมามีริมฝีปากอมชมพูได้นั้น คุณต้องเลิกนิสัยเลียริมฝีปากให้ได้ก่อน ทั้งนี้หลายคนอาจคิดว่าการเลียริมฝีปากช่วยให้ผิวบริเวณนี้ชุ่มชื้น แต่ความจริงแล้วมันกลับทำร้ายริมฝีปาก เพราะน้ำลายจะทำให้ริมฝีปากแห้งนั่นเอง อย่างไรก็ดี คุณสามารถหลีกเลี่ยงการเลียริมฝีปากโดยพกลิปบาล์มติดตัว เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกว่าริมฝีปากแห้ง ให้คุณทาลิปบาล์ม หรือคุณจะเคี้ยวหมากฝรั่งหรือดูดอมยิ้มเพื่อหยุดการเลียริมฝีปาก นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงการกัดหรือลอกผิวบริเวณนี้ เพราะมันสามารถทำให้เลือดไหล
คำแนะนำอื่นๆ
- ทาผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF30 หรือมากกว่านี้ก่อนออกจากบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้ริมฝีปากและผิวคล้ำเสีย
- ใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่มแปรงริมฝีปากในขณะที่แปรงฟันตอนเช้า ซึ่งมันสามารถช่วยกำจัดผิวที่แห้งกร้านและทำให้ริมฝีปากดูสดชื่นและนุ่มลง
- ล้างริมฝีปากด้วยน้ำอุ่นก่อนเข้านอน ซับให้แห้ง และทาลิปบาล์มตามลงไป
- แพทย์ผิวหนังอาจจ่ายครีมไฮโดรควิโนน ซึ่งช่วยผลัดผิวให้ดูจางลง
- หากริมฝีปากบนหมองคล้ำในช่วงตั้งครรภ์ มันมีแนวโน้มที่จะหายไปเองหลังจากที่คุณคลอดลูก 2-3 เดือน
- หากริมฝีปากบนหมองคล้ำเพราะฮอร์โมน คุณอาจปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ฮอร์โมนทดแทน
- ในกรณีที่คุณใช้ลิปสติกทุกวัน ให้คุณเลือกใช้ลิปสติกที่มีส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- เลือกใช้ลิปสติกและลิปบาล์มที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีที่ทำให้เกิดอันตราย
ที่มา: https://www.top10homeremedies.com/how-to/lighten-a-dark-upper-lip.html