1.พีช: แหล่งของโพแทสเซียม
ทุกคนรู้กันดีว่ากล้วยนั้นเป็นแหล่งของโพแทสเซียมแต่ลูกพีช ลูกเล็กๆ 2 ลูกนั้นให้แร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมากกว่ากล้วยขนาดกลาง 1 ใบ ช่วยบำรุงเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะเปลือกของพีชที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ พีชยังเป็นผลไม้ให้รสหวานที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักอีกด้วย โดยคุณอาจจะนำพีชมาเป็นส่วนประกอบในการทำขนมหวานที่ดีต่อสุขภาพ
2.สับปะรด: อุดมไปด้วยสารต้านการอักเสบ
สับปะรดนั้นเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยสาร bromelain ซึ่งเป็นเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดและเส้นเลือดสมองอุดตันรวมถึงช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตรอีกด้วย
3.องุ่น: ดีต่อสุขภาพของหัวใจ
องุ่นนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ quercetin และ resveratrol ที่พบว่าช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและการมี cholesterol ในระดับสูง องุ่นยังเป็นแหล่งของโพแทสเซียมและธาตุเหล็กซึ่งช่วยป้องกันการเกิดตะคริวและภาวะโลหิตจาง องุ่นแดงหรือม่วงเป็นสายพันธุ์ที่มีสารที่ดีต่อสุขภาพมากที่สุด
4.กีวี่: อุดมไปด้วยวิตามิน
กีวี่นั้นอุดมไปด้วยวิตามันซีและอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งและดีต่อสายตา นอกจากนั้นกีวี่ยังให้พลังงานต่ำแต่มีเส้นใยอาหารสูงทำให้เป็นผลไม้ที่เหมาะในผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก
5.มะม่วง: ช่วยเพิ่มภูมิต้านทาน
มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ซึ่งร่างกายสามารถเปลี่ยนสารนี้ให้กลายเป็นวิตามินเอเพื่อนำไปสร้างกระดูกและเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายได้ นอกจากนั้นมะม่วงยังให้วิตามินซีในปริมาณสูงอีกด้วย
6.แอปเปิ้ล: ดีต่อสมองและหัวใจ
แอปเปิ้ลขนาดกลาง 1 ลูกนั้นให้พลังงานต่ำ (เพียงแค่ 80 แคลอรี) แต่อุดมไปด้วยสาร quertecin ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์สมองที่จะทำไปสู่โรคอัลไซเมอร์ได้ มีงานวิจัยพบว่าผู้ที่รับประทานแอปเปิ้ลนั้นมีโอกาสในการเกิดโรคความดันโลหิตสูงน้อยกว่า นอกจากนั้นแอปเปิ้ลยังสามารถช่วยลดระดับ cholesterol และป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ และเพิ่มความแข็งแรงของฟันอีกด้วย เวลารับประทานแอปเปิ้ล ให้รับประทานทั้งเปลือกเพราะเปลือกนั้นก็เป็นส่วนที่อุดมไปด้วยสารที่ช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ เช่น flavonoids ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ
7.ทับทิม: ให้สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดงหรือชาเขียว
น้ำทับทิมนั้นให้สารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าไวน์แดงหรือชาเขียวถึง 2-3 เท่าและยังเป็นแหล่งของโพแทสเซียมซึ่งช่วยคงพลังงานให้กับร่างกายและควบคุมความดันโลหิต งานวิจัยพบว่าการดื่มน้ำทับทิม ¼ ถ้วยนั้นจะช่วยทำให้ระบบหัวใจและหลอดเลือดดีขึ้น ลดระดับ cholesterol ลงและช่วยทำให้ภาวะองคชาติไม่แข็งตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มรับประทานน้ำทับทิมเป็นประจำเนื่องจากน้ำทับทิมอาจส่งผลต่อการทำงานของยาบางตัวได้
8.Grapefruit: แหล่งของวิตามินซี
ถึงแม้ว่าส้มนั้นจะเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซีที่สำคัญแต่ grapefruit นั้นก็จัดเป็นผลไม้ที่ให้วิตามินซีได้มากและยังเป็นอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร โพแทสเซียมและวิตามินเออีกด้วย มีงานวิจัยที่พบว่า grapefruit นั้นช่วยลดอาการของโรคข้ออักเสบและช่วยซ่อมแซมผิวหนังหรือผมที่มันได้
9.กล้วย: รับประทานง่ายแต่ดีต่อสุขภาพ
กล้วยจัดเป็นผลไม้ที่เหมาะกับการรับประทานเป็นของว่าง โดยกล้วยนั้นเป็นแหล่งของโพแทสเซียมและเสน้ใยอาหารที่จะช่วยคงพลังงานในร่างกายตลอดทั้งวัน และเนื่องจากกล้วยนั้นไม่มีไขมันหรือเกลือทำให้กล้วยเป็นผลไม้ที่เหมาะนำมารับประทานแทนขนมต่างๆ ในยามว่าง
10.บลูเบอร์รี่: อุดมไปด้วยสารชะลอวัย
บลูเบอร์รี่นั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและวิตามินซีที่ช่วยในการต่อสู้กับโรคต่างๆ รวมถึงสาร anthocyanin ซึ่งเป็นเม็ดสีที่เพิ่มการทำงานของสมอง งานวิจัยหนึ่งพบว่าผู้ที่รับประทานบลูเบอร์รี่นั้นมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะที่ทำให้ตาบอดได้ลดลง