วิตามินซี หนึ่งในวิตามินสำคัญอีกหนึ่งชนิดที่หลายคนนิยมกินเป็นอาหารเสริม เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่า นอกจากนี้แล้ววิตามินซีมีดีอะไรอีกบ้าง เพราะฉะนั้นสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินซีได้จากข้อมูลดังต่อไปนี้
ข้อเท็จจริงของวิตามินซี
- ละลายในน้ำและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง
- สัดส่วนใหญ่สังเคราะห์วิตามินซีเองได้แต่มนุษย์ ลิงและหนูตะเภาต้องอาศัยวิตามินซีจากอาหารที่รับประทาน
- มีบทบาทสำคัญในการสร้างคอลลาเจน ซึ่งมีความสำคัญต่อกระบวนการสร้างและซ่อมแซมเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆเหงือก ผนังหลอดเลือด กระดูกและฟัน
- ช่วยให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
- มีหน่วยวัดเป็นมิลลิกรัม (มก.)
- ถูกใช้หมดไปอย่างรวดเร็วเมื่อตกอยู่ในภาวะเครียด
- ขณะที่แนะนำให้รับประทานต่อวันอยู่ที่ 60 มิลลิกรัม (ในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรแนะนำที่ 70-95 มิลลิกรัม)
- ผู้ที่สูบบุหรี่และผู้สูงอายุต้องการวิตามินซีเพิ่มขึ้น (ร่างกายสูญเสียวิตามินสี่ 25-100 มิลลิกรัมต่อการสูบบุหรี่หนึ่งมวน
- ป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (แอลดีแอล)
วิตามินนี้ดีต่อร่างกายคุณอย่างไร
- ช่วยในการรักษาแผลสด แผลไหม้และอาการเลือดออกตามไรฟัน
- เพิ่มประสิทธิภาพของยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
- เร่งแผลหลังผ่าตัดให้หายเร็วขึ้น
- ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
- ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียหลายชนิดและช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ช่วยป้องกันมะเร็งหลายประเภทช่วยต่อต้านการสร้างสารในโตรซามีน (ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดมะเร็ง)
- เป็นยาระบายตามธรรมชาติ
- ลดการเกิดเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ
- ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคหวัด
- ต่อชีวิตให้เซลล์โดยช่วยให้โปรตีนในเซลล์เกาะเกี่ยวกันได้ดีขึ้น
- เพิ่มการดูดซึมของธาตุเหล็ก
- ลดอาการที่เป็นผลมาจากสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้
- ช่วยลดความดันเลือด
- ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
- โรคที่เกิดจากการขาดวิตามิน
- โรคเลือดออกตามไรฟัน
- แหล่งจากธรรมชาติที่ดีที่สุด
- ผลไม้รสเปรี้ยว ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว มะเขือเทศ แคนตาลูป ดอกกะหล่ำ มันฝรั่งและพริกไทย
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
- วิตามินซีเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่รับประทานกันอย่างแพร่หลายที่สุด มีจำหน่ายทั้งในรูปเม็ดอัด แคปซูล ลูกอมเม็ด แบบแตกตัวช้า น้ำเชื่อม แบบผง แบบเคี้ยว หรือเรียกได้ว่าแทบทุกรูปของวิตามินที่มีอยู่ในโลกนี้
- วิตามินซีบริสุทธิ์ คือรูปที่แปลงมาจากน้ำตาลเดกซ์โทรสจากข้าวโพด (ถึงแม้จะไม่มีข้าวโพดหรือเดกซ์โทรสลงเหลืออยู่เลย)
- ความแตกต่างระหว่างวิตามินซีจากธรรมชาติหรือแบบอินทรีย์(organic) และกรดแอสคอร์บิกสังเคราะห์โดยทั่วไปคือความยากง่ายในการย่อยและดูดซึมซึ่งต่างกันไปตามความสามารถของแต่ละคน
- ผลิตภัณฑ์วิตามินซีเสริมอาหารที่ดีที่สุดคือวิตามินซีที่ประกอบด้วยไบโอฟลาโวนอยด์ เฮสเพอริดิน และรูติน (บางครั้งอาจเห็นชื่อเหล่านี้บนฉลากว่าเกลือซิตรัส)
- วิตามินซีในรูปแบบเม็ดหรือแบบแคปซูลหนังมีขนาด 1000 มิลลิกรัมส่วนในรูปผงละลายน้ำมันมีขนาด 5000 มิลลิกรัมต่อช้อนชา
- ขณะที่มากแนะนำให้รับประทานกันคือ 500 มิลลิกรัมไปจนถึง 4 กรัมต่อวัน
- วิตามินซีจากโรสฮิปหรือผลกุหลาบจะมีไบโอฟลาโวนอยด์ และเอนไซม์อื่นๆที่ช่วยให้วิตามินซีแตกตัวได้ดีถือเป็นแหล่งของวิตามินซีตามธรรมชาติที่ดีที่สุด (วิตามินซีถูกสร้างขึ้นที่ส่วนป้ายดอกซึ่งเรียกว่าฮิป)
- อะซีโรลาซี (Acerola C) คือวิตามินซีที่สกัดจากผลอะโรซีลาเบอร์รี่
อาการเป็นพิษและสัญญาณเตือนว่ารับประทานมากไป
- หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดนิ่วจากกรดออกซาลิกและกรดยูริกได้ (การรับประทานแมกนีเซียม วิตามินบีหกและดื่มน้ำมากๆช่วยป้องกันได้) บางครั้งการรับประทานในปริมาณสูงมาก (มากกว่า 10 กรัมต่อวัน) อาจก่อให้เกิดผลไม่เป็นประสงค์เช่น อาการท้องร่วง ปัสสาวะบ่อยและผื่นตามผิวหนัง หากคุณมีอาการดังกล่าวควรลดปริมาณที่รับประทานลง
- คนไข้โรคมะเร็งที่กำลังฉายรังสีหรือเคมีบำบัดไม่ควรรับประทานวิตามินซีเพราะมันอาจเปลี่ยนผลการตรวจได้
ศัตรู
น้ำ การปรุงอาหาร ความร้อน แสง ออกซิเจน การสูบบุหรี่
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คำแนะนำ
- เนื่องจากวิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายในสอง-3 ชั่วโมงหลังรับประทานขึ้นกับปริมาณอาหารในกระเพาะและการรักษาระดับของวิตามินซีในเลือดให้อยู่สูงตลอดถือเป็นสิ่งที่สำคัญต่อสุขภาพ จึงขอแนะนำให้รับประทานพร้อมอาหารมื้อเช้าและเย็น วิตามินซีในปริมาณสูงอาจกระทบถึงการตรวจเลือดรวมทั้งผลการตรวจมะเร็งปากมดลูก (แป๊ปสเมียร์) ได้ดังนั้นหากคุณกำลังจะไปตรวจเลือดหรือตรวจปัสสาวะ อย่าลืมแจ้งแพทย์ว่าคุณกำลังรับประทานวิตามินซีอยู่การวินิจฉัยจะได้ไม่ผิดพลาด (วิตามินซีอาจทำให้ตรวจไม่พบเลือดในอุจจาระจะทำให้การตรวจหามะเร็งลำไส้ใหญ่คลาดเคลื่อนได้)
- ผู้ที่เป็นเบาหวานควรทราบว่าค่าที่ได้จากการตรวจหาน้ำตาลในเป๋าสวอาจไม่ถูกต้องหากคุณรับประทานวิตามินซีปริมาณสูง (แต่มีชุดตรวจพิเศษที่ทำให ผู้ที่เป็นเบาหวานควรทราบว่าค่าที่ได้จากการตรวจหาน้ำตาลในปัสสาวะอาจไม่ถูกต้องหากคุณรับประทานวิตามินซีปริมาณสูง (แต่มีชุดตรวจพิเศษ ที่วิตามินซีไม่ทำให้ผลเปลี่ยนแปลงเช่นกันลองปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ของคนดู)
- ยารักษาโรคเบาหวานเช่น คลอร์โพรพาไมด์ (ไดอะบินีส) และยาในกลุ่มซัลฟาอาจมีประสิทธิภาพด้อย ลงหากรับประทานร่วมกับวิตามินซี
- สำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดสองหรือผู้ที่มีความดันโลหิตสูงสามารถลดความดันโลหิตได้เพียงรับประทานวิตามินซีวันละ 500 มิลลิกรัม
- สำหรับผู้ที่มีโรคทางพันธุกรรมที่ส่งผลให้มีเหล็กสะสมในร่างกายมากเช่นทาลัสซีเมีย หรือฮีโมโครมาโตซิสไม่แนะนำให้รับประทานวิตามินซีปริมาณสูง
- หากคุณรับประทานวิตามินซีเกินกว่า 750 มิลลิกรัมต่อวัน แนะนำให้รับประทานแมกนีเซียมเสริมด้วย เป็นการป้องกันการเกิดนิ่วในตายที่ได้ผลดี
- ก๊าซคาร์บอนมอนออกไซด์ทำลายวิตามินซีดังนั้นผู้ที่อาศัยอยู่ในเมืองซึ่งมีก๊าซชนิดหนึ่งหนาแน่นควรรับประทานวิตามินซีให้มากขึ้น
- หากคุณรับประทานยาคุมกำเนิดคุณจะต้องการวิตามินซีเพิ่ม
- เพื่อให้วิตามินซีทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดควรให้มันได้ทำงานร่วมกันกับไบโอฟลาโวนอยด์ แคลเซียม และแมกนิเซียม
- หากคุณรับประทานแอสไพรินแนะนำให้เพิ่มปริมาณการรับประทานวิตามินซีเพราะแอสไพรินทำให้วิตามินซีถูกขับเร็วขึ้นถึงสามเท่า
- เมื่อคุณรับประทานโสมควรเว้นระยะ 2 ชั่วโมงก่อนหรือหลังรับประทานวิตามินซีหรืออาหารที่มีวิตามินซีสูง
- เพื่อบรรเทาอาการหวัดรับประทานวิตามินซี 1000 มิลลิกรัมวันละสองเวลาพบว่าช่วยลดระดับฮีสตามีนในเลือดลดลงถึงร้อยละ 40 (ฮีสตามีนเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการน้ำมูกน้ำตาไหลนั่นเอง)
หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์และอยากอ่านเกี่ยวกับหัวข้อนี้เพิ่มเติม สามารถสนับสนุน ดร.เอิร์ล มินเดลล์ (ผู้แต่ง) พญ. ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล (แปล) ได้โดยการซื้อหนังสือวิตามินไบเบิล