อาการหลักของโรคไมเกรน คือ มักมีอาการปวดศีรษะอย่างมากที่ด้านใดด้านหนึ่งของศีรษะ และยังอาจมีอาการอื่นๆ ด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียน มีความไวต่อแสงและเสียง เป็นต้น
อาการปวดมักเป็นในระดับปานกลางจนถึงระดับรุนแรง ที่จะมีอาการแย่ลงเมื่อคุณเคลื่อนไหวร่างกายซึ่งทำให้คุณไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ในบางกรณี อาการปวดศีรษะสามารถปวดได้ทั้งสองข้างของศีรษะและอาจมีผลกระทบกับใบหน้าหรือลำคอด้วย
อาการเพิ่มเติมอื่นๆ ของไมเกรน
อาการอื่นๆ ที่มีความสัมพันธ์กับไมเกรน ได้แก่:
- คลื่นไส้
- อาเจียน
- มีความไวต่อแสงและเสียง- คือแสงและเสียงทำให้ปวดศีรษะมากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากต้องการพักผ่อนในห้องเงียบและมืด
ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการบางอย่างเป็นครั้งคราว ได้แก่:
- เหงื่อออก
- ไม่มีสมาธิ
- รู้สึกร้อนมากหรือหนาวมาก
- ปวดท้อง
- ท้องเสีย
ไม่ใช่ผู้ป่วยที่เป็นไมเกรนทุกรายจะมีอาการอื่นๆ ดังกล่าวข้างต้น และบางรายอาจมีอาการข้างต้นโดยที่ไม่มีอาการปวดศีรษะเลยก็ได้
อาการของไมเกรนมักมีอาการนานตั้งแต่ 4 ชั่วโมง ไปจนถึง 3 วัน และคุณอาจรู้สึกอ่อนเพลียมากเป็นสัปดาห์ภายหลังอาการปวดศีรษะหายไป
อาการเตือนของไมเกรน (symptoms of aura)
ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยไมเกรนจะมีอาการเตือนชั่วคราวก่อนที่จะมีอาการของไมเกรน เราเรียกอาการเตือนว่า aura ซึ่งได้แก่:
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ปัญหาด้านการมองเห็น: เช่น มองเห็นแสงไฟกระพริบ หรือเส้นซิกแซกไปมา หรือเห็นเป็นจุดบอดเกิดขึ้น
- มีอาการชาหรือเสียวซ่าเหมือนถูกเข็มตำ ซึ่งมักจะเริ่มมีอาการที่มือข้างหนึ่งและเคลื่อนที่ไปที่แขนก่อนที่จะมีอาการที่ใบหน้า ริมฝีปาก และลิ้น
- รู้สึกเวียนศีรษะ หรือทรงตัวไม่อยู่
- พูดลำบาก
- หมดสติ-มักไม่พบเป็นปกติ
อาการเตือนของไมเกรนมักเป็นนาน 5 นาทีจนถึงเป็นชั่วโมง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเตือนของไมเกรนและตามด้วยอาการปวดศีรษะเล็กน้อยเท่านั้น หรือไม่มีอาการปวดศีรษะเลยก็ได้
เมื่อไรควรไปพบแพทย์เมื่อเป็นไมเกรน
คุณควรไปพบแพทย์เมื่อคุณมีอาการของไมเกรนบ่อยครั้ง หรือมีอาการไมเกรนรุนแรงที่ไม่สามารถจัดการด้วยการใช้ยาแก้ปวดเป็นครั้งคราวได้ เช่น ยาพาราเซตามอล
อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดด้วยความระมัดระวัง ไม่รับประทานมากเกินไป เพราะจะทำให้การรักษาอาการปวดศีรษะในอนาคตทำได้ยากขึ้น
คุณควรเข้าพบแพทย์หากคุณมีอาการปวดศีรษะบ่อยครั้ง (มากกว่า 5 ครั้งต่อเดือน) แม้ว่าคุณจะควบคุมอาการปวดศีรษะได้ด้วยการใช้ยาก็ตาม เพราะการไปพบแพทย์ คุณอาจได้รับยาป้องกันไมเกรนซึ่งอาจเป็นประโยชน์สำหรับคุณ
คุณควรโทรเรียกรถพยาบาลที่ 1669 ทันที หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการดังนี้:
- ชาหรืออ่อนแรงที่แขนข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้าง และ/หรือ ด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า
- พูดไม่ชัด
- อาการปวดศีรษะรุนแรงฉับพลันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
- ปวดศีรษะร่วมกับมีไข้ คอแข็ง มึนงงสับสน ชัก มองเห็นภาพซ้อน และมีผื่น
อาการดังกล่าวข้างต้นอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคที่มีความร้ายแรงมากกว่าไมเกรน เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (stroke) หรือ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (meningitis) ซึ่งควรได้รับการตรวจประเมินโดยแพทย์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
https://www.nhsinform.scot/illnesses-and-conditions/brain-nerves-and-spinal-cord/migraine#symptoms