กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

การดูแลตนเองขณะท่องเที่ยวของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

เป็นโรคเบาหวานต้องดูแลตนเองอย่างไรเมื่ออยู่นอกบ้าน
เผยแพร่ครั้งแรก 22 ม.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 6 นาที
การดูแลตนเองขณะท่องเที่ยวของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

เรื่องควรรู้

ขยาย

ปิด

  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานทั้งผู้ที่ต้องใช้ยาฉีดอินซูลิน และไม่ใช้ยาฉีดจำเป็นต้องเตรียมยาให้พร้อมเมื่อต้องออกไปข้างนอกบ้าน เพื่อจะได้รับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับอาการโรคได้ทันเวลา
  • เด็กที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ผู้ปกครองต้องแจ้งครู และบุคลากรในโรงเรียนให้ทราบเกี่ยวกับโรคของเด็ก เพื่อให้มีผู้ช่วยเหลือเมื่อเด็กมีระดับน้ำตาลในเลือดอยู่ในเกณฑ์อันตราย
  • ผู้ป่วยที่ไปเที่ยวนอกบ้านควรฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อนท่องเที่ยว รวมถึงควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานก่อนออกไปข้างนอกให้เหมาะสม หากต้องขับรถยนต์ ก็ควรตรวจระดับน้ำตาลก่อนขับด้วย และพกยาสำรองติดตัวไปด้วยเสมอ
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาที่ต้องเดินทางด้วยเครื่องบินควรขอจดหมายรับรองแพทย์ว่า ตนเองเป็นโรคอะไร เพื่อที่จะได้พกอุปกรณ์ฉีดยาที่จำเป็น และไม่สามารถผ่านเครื่องเอกซเรย์ติดตัวไปได้
  • เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโรคเบาหวาน

สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เมื่อคุณกำลังป่วยเป็นหวัด ไข้หวัดใหญ่ หรือติดเชื้อ ก็จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงขึ้นได้ อีกทั้งอาการเจ็บป่วยยังสามารถเพิ่มความเครียดให้กับร่างกายของคุณอีก ทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนออกมาเพื่อต่อสู้กับความเครียด และความเจ็บป่วยที่เกิดขึ้น  

เมื่อระดับฮอร์โมนสูงขึ้นทำให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงขึ้นตามไปด้วย คุณจึงควรวางแผนการจัดการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรคเบาหวานในขณะที่คุณเจ็บป่วย  ขั้นตอนแรกก็คือการพูดคุยกับทีมแพทย์ที่ดูแลคุณ และทำการจดบันทึกไว้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

  • ความถี่ในการตรวจระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด
  • ควรตรวจเช็คระดับคีโตนในเลือดหรือในปัสสาวะหรือไม่
  • ควรเปลี่ยนขนาดยารักษาโรคเบาหวานหรือไม่
  • อะไรที่ควรรับประทานหรือดื่มในช่วงนี้
  • เมื่อไรที่ควรไปพบแพทย์

วิธีการใช้ยาให้เหมาะสมกับชีวิตประจำวันของผู้ป่วยโรคเบาหวาน

หากคุณใช้ยาฉีดอินซูลิน

  • ใช้ยาฉีดอินซูลินโดยไม่ต้องหยุดยา แม้ว่าคุณจะมีอาการป่วย หรือคลื่นไส้ อาเจียน ก็ตาม
  • สอบถามแพทย์ผู้ดูแลรักษาถึงวิธีในการปรับขนาดยาอินซูลินโดยการอ้างอิงจากระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดที่ตรวจวัดได้

หากคุณไม่ได้ใช้ยาฉีดอินซูลิน

  • รับประทานยารักษาโรคเบาหวานโดยไม่ต้องหยุดยา แม้ว่าคุณจะมีอาการป่วย หรือคลื่นไส้ อาเจียน ก็ตาม

ผู้ที่มีอาการป่วยบางครั้งจะรู้สึกไม่อยากอาหาร ทำให้รับประทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งส่งผลให้ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดต่ำได้ การรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต เช่น น้ำหวาน ขนม ของว่าง จะช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้

ถ้าคุณกำลังป่วย ทีมแพทย์ที่ดูแลอาจแนะนำให้คุณปฏิบัติดังนี้:

  • ตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดอย่างน้อยวันละ  4 ครั้ง และให้จดบันทึกผลการตรวจทุกครั้ง ซึ่งคุณสามารถนำผลระดับน้ำตาลในเลือดนี้ให้ทีมแพทย์ที่รักษาคุณดูได้
  • รับประทานยารักษาโรคเบาหวานโดยไม่ต้องหยุดยา แม้ว่าจะไม่สามารถรับประทานอาหารได้ก็ตาม
  • ดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำที่ไม่มีพลังงาน หรือน้ำที่ปราศจากคาเฟอีน อย่างน้อย 1 แก้ว หรือประมาณ 240 มิลลิลิตร ทุกๆ ชั่วโมงในขณะที่คุณตื่น
  • ถ้าคุณไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ แนะนำให้ลองรับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มต่อไปนี้เพื่อป้องกันภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
    • น้ำผลไม้
    • ขนมปังแห้ง
    • ซุป
    • ไอศกรีมเชอร์เบท
    • วุ้นเจลาติน (ต้องไม่ใช่ชนิดปราศจากน้ำตาล)
    • นม
    • โยเกิร์ต
    • น้ำโซดา (ต้องไม่ใช่ชนิดปราศจากน้ำตาล)

แพทย์อาจแนะนำให้คุณโทรหาแพทย์/ไปพบแพทย์ทันที ถ้า

  • ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณสูงกว่า 240 แม้ว่าคุณจะรับประทานยารักษาโรคเบาหวานอยู่แล้วก็ตาม
  • ระดับคีโตนในปัสสาวะหรือในเลือดของคุณสูงกว่าปกติ
  • อาเจียนมากกว่า 1 ครั้ง
  • ท้องเสียมากกว่า 6 ชั่วโมง
  • หายใจผิดปกติ
  • มีไข้สูง
  • ไม่สามารถใช้ความคิดได้เหมือนปกติ หรือรู้สึกง่วงมากกว่าปกติ

คุณควรสอบถามแพทย์เพิ่มเติม หากคุณยังมีข้อสังสัยเกี่ยวกับการดูแลตนเองอยู่

วิธีดูแลตนเองเมื่ออยู่ที่โรงเรียน หรือที่ทำงาน

วิธีในการดูแลตนเองเกี่ยวกับโรคเบาหวาน เมื่อคุณอยู่ที่โรงเรียน หรือที่ทำงาน

  • ปฏิบัติตามแผนรับประทานอาหารที่กำหนด
  • รับประทานยา หรือฉีดยา และตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดตามที่แพทย์สั่ง
  • แจ้งให้ครู เพื่อน หรือเพื่อนร่วมงานที่สนิทด้วยทราบว่าคุณกำลังเป็นโรคเบาหวาน และสอนให้พวกเขารู้ว่าอาการของภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำจะมีอาการอย่างไรบ้าง  เพราะคุณอาจจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากพวกเขาเมื่อคุณมีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป
  • แนะนำให้พกขนม หรือลูกอม ไว้ติดตัวเสมอเพื่อรักษาภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • หากที่ทำงานหรือโรงเรียนของคุณมีบุคลากรที่ได้รับการอบรมเกี่ยวกับโรคเบาหวานมาแล้ว แนะนำให้คุณแจ้งให้เขาทราบว่า คุณกำลังเป็นโรคเบาหวานอยู่
  • เก็บบัตรประจำตัวผู้ป่วยที่บ่งบอกว่าคุณเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานไว้กับตัวเสมอ

วิธีดูแลตนเองเมื่อต้องออกจากบ้าน

คำแนะนำต่อไปนี้สามารถช่วยคุณได้เมื่อคุณต้องออกจากบ้าน:

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

  • ฉีดวัคซีนให้เรียบร้อยก่อนการท่องเที่ยว โดยจะต้องมั่นใจว่าจำนวนเข็มที่ได้รับการฉีดถูกต้องเหมาะสมสำหรับโรคที่เกิดในสถานที่ที่คุณกำลังไปท่องเที่ยว และต้องมั่นใจว่าได้รับการฉีดตามเวลาที่กำหนดแล้ว
  • ปฏิบัติตามแผนการรับประทานอาหารที่กำหนดไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อย่าลืมที่จะพกขนมหรือลูกอมไว้ติดตัวเสมอเพื่อรักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำด้วยตนเองได้ทันท่วงที
  • จำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และให้สอบถามทีมแพทย์ของคุณว่าปริมาณแอลกอฮอล์เท่าใดที่จะปลอดภัยสำหรับคุณ อย่าลืมที่จะรับประทานในขณะที่คุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • หากคุณท่องเที่ยวครั้งนี้ด้วยรถยนต์ ซึ่งใช้เวลานาน แนะนำให้ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดก่อนขับรถ จากนั้นทุก 2 ชั่วโมงให้หยุดขับรถ และทำการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด
  • พกยารักษาโรคเบาหวานติดตัวเสมอ และมีสำรองไว้ในรถด้วย
  • ในกรณีที่คุณอาจไม่สามารถกลับบ้านได้ตามกำหนดเวลา แนะนำให้พกยาสำรองไว้ 2 เท่าของปริมาณปกติที่ต้องใช้
  • สวมใส่รองเท้าที่สบาย พอดีกับเท้า คุณสามารถเดินได้มากกว่าปกติที่เคยเดิน อย่าลืมที่จะพบบัตรประกันสุขภาพต่างๆ หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน และลูกอม สำหรับปฐมพยาบาลเบื้องต้นขณะที่มีภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • พบบัตรประจำตัวผู้ป่วยโรคเบาหวานติดตัวไว้เสมอ
  • หากคุณวางแผนที่จะออกจากบ้านเป็นระยะเวลานาน ให้ปรึกษาแพทย์เพื่อเขียนใบสั่งยารักษาโรคเบาหวานเพื่อให้คุณไปรับยาที่โรงพยาบาลอื่น หรือซื้อตามร้านขายยา
  • ไม่ควรซื้อยาเพิ่มเติมในขณะที่ไปเที่ยว โดยเฉพาะเมื่อไปเที่ยวต่างประเทศ เพราะต่างประเทศกันจะมียารักษาโรคเบาหวานแตกต่างกันได้ จึงแนะนำให้พกยาติดตัวไปให้เพียงพอสำหรับวันท่องเที่ยวที่คุณต้องออกจากบ้าน

วิธีดูแลตนเองเมื่อต้องโดยสารเครื่องบิน

เคล็ดลับต่อไปนี้จะช่วยคุณได้เมื่อคุณต้องโดยสารเครื่องบิน

  • ปรึกษาแพทย์ของคุณเกี่ยวกับวิธีในการปรับขนาดยา โดยเฉพาะถ้าเป็นยาฉีดอินซูลิน เมื่อคุณต้องเดินทางข้ามเขตเวลา (time zones)
  • ขอจดหมายรับรองจากแพทย์ว่าคุณเป็นโรคเบาหวาน โดยในจดหมายควรมีการระบุถึงยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นสำหรับคุณเมื่ออยู่บนเครื่องบิน ซึ่งรวมถึงรายชื่ออุปกรณ์บางชนิดที่ไม่สามารถผ่านเครื่องเอ็กซ์เรย์ได้
  • พกยารักษาโรคเบาหวาน และอุปกรณ์ในการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดไว้กับตัวเสมอขณะโดยสารเครื่องบิน อย่านำไปเก็บไว้ในสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง
  • รับประทานอาหารและของว่างตามเวลาเมื่ออยู่เมื่อเครื่องบิน
  • ขณะโดยสารเครื่องบิน ให้ลุกจากที่นั่งและเดินไปมาบ้าง หากสามารถทำได้

วิธีดูแลตนเองขณะท่องเที่ยวของผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาฉีดอินซูลิน

เมื่อคุณเดินทางท่องเที่ยว

  • พกยาอินซูลินใส่ถุงที่มีฉนวนกันความร้อนเพื่อเก็บรักษาอุณหภูมิของอินซูลินไม่ให้อยู่ในอุณหภูมิที่ร้อนจัดจนเกินไป
  • พบพายาฉีดอินซูลิน และอุปกรณ์ในการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเอง ในปริมาณสำรองมากกว่าปกติ เพื่อป้องกันการสูญหายหรือแตกหักระหว่างเดินทาง
  • ขอจดหมายรับรองจากแพทย์ว่า คุณเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน และจำเป็นต้องมีการพกอุปกรณ์สำหรับฉีดยาอินซูลิน และอุปกรณ์ในการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดติดตัวเสมอ

วิธีดูแลตนเองขณะท่องเที่ยวของผู้ป่วยไม่ได้ใช้ยาฉีดอินซูลิน 

เมื่อคุณเดินทางท่องเที่ยว

  • ให้สอบถามแพทย์เกี่ยวกับวิธีในการปรับขนาดยา ถ้าคุณต้องเดินทางท่องเที่ยวข้ามเขตเวลา
  • พกยารักษาโรคเบาหวาน และอุปกรณ์ในการตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดติดตัวเสมอขณะโดยสารเครื่องบิน
  • ขอจดหมายรับรองจากแพทย์ว่า คุณเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน และจำเป็นต้องมีการพกอุปกรณ์สำหรับฉีดยาอินซูลินและอุปกรณ์ในการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดติดตัวเสมอ

วิธีดูแลตนเองเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติธรรมชาติ

ผู้ป่วยโรคเบาหวานทุกคนควรเตรียมตัวให้พร้อม หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือภัยพิบัติธรรมชาติเกิดขึ้น เช่น ไฟฟ้าดับ หรือเกิดพายุ น้ำท่วม  โดยจะต้องมีอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการดูแลรักษาโรคเบาหวานเตรียมพร้อมไว้เสมอ เช่น

  • เครื่องตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือด เข็มเจาะเลือดชนิดปากกา และแผ่นตรวจระดับน้ำตาลในเลือด
  • ยารักษาโรคเบาหวานของคุณ
  • ยาฉีดอินซูลิน เข็มฉีดยา และถุงชนิดมีฉนวนกันความร้อนเพื่อเก็บรักษาให้อินซูลินเย็นอยู่ตลอดเวลา (หากคุณต้องใช้ยาฉีดอินซูลิน)
  • ยาฉีดกลูคากอน (หากแพทย์แนะนำให้มีไว้)
  • ลูกอม น้ำ หรืออาหาร ที่จะช่วยรักษาภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • ยาปฏิชีวนะ (ยาฆ่าเชื้อ) ชนิดครีมหรือชนิดขี้ผึ้ง
  • เอกสารระบุข้อมูลเกี่ยวกับโรคที่คุณเป็น ยาที่คุณใช้ และผลตรวจทางห้องปฏิบัติการล่าสุดของคุณ
  • เบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉินต่างๆ ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือภัยพิบัติ

นอกจากนี้ คุณอาจจำเป็นต้องมีอาหารที่เก็บรักษาได้นาน เช่น อาหารกระป๋อง อาหารแห้ง และน้ำดื่มบรรจุขวดสำรองไว้ด้วย

วิธีดูแลตนเองหากเป็นผู้หญิงที่กำลังวางแผนจะตั้งครรภ์

การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้ใกล้เคียงปกติก่อนตั้งครรภ์ และตลอดช่วงเวลาของการตั้งครรภ์จะช่วยปกป้องคุณและลูกของคุณ ดังนั้นก่อนการตั้งครรภ์ ระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดควรมีค่าใกล้เคียงกับค่าปกติมากที่สุด

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

ทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลรักษาคุณจะวางแผนร่วมกับคุณในการรักษาโรคเบาหวาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสมก่อนที่คุณจะตั้งครรภ์  

หากคุณกำลังตั้งครรภ์อยู่แล้ว และเป็นโรคเบาหวาน แนะนำให้ไปพบแพทย์ทันทีเพื่อขอคำปรึกษา  คุณสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลกลูโคสให้ใกล้เคียงค่าปกติมากที่สุด

หากคุณใช้ยาฉีดอินซูลินอยู่ อาจจำเป็นต้องได้รับการเปลี่ยนแปลงขนาดยาที่ใช้ แพทย์อาจแนะนำให้คุณใช้ยาฉีดอินซูลินในปริมาณที่มากขึ้น และตรวจระดับน้ำตาลในเลือดด้วยตนเองบ่อยขึ้น

ถ้าคุณวางแผนจะมีลูก

  • ให้วางแผนการรักษาโรคเบาหวานร่วมกับทีมแพทย์ที่ดูแลคุณเพื่อให้ค่าระดับน้ำตาลในเลือดใกล้เคียงค่าปกติมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • พบแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ตั้งครรภ์
  • งดสูบบุหรี่ งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ใช้ยาที่อาจก่อให้เกิดอันตราย
  • ปฏิบัติตามแผนการรับประทานอาหารที่วางแผนไว้

อย่าลืมว่าจะต้องตรวจสุขภาพตา หัวใจ หลอดเลือด ความดันโลหิต และไต ก่อนการตั้งครรภ์ แพทย์ของคุณจะมีการตรวจเช็คปัญหาที่เกิดขึ้นกับระบบประสาทก่อนการตั้งครรภ์ด้วย เพราะการตั้งครรภ์อาจส่งผลให้ปัญหาสุขภาพบางอย่างที่เป็นแย่ลงได้

เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจโรคเบาหวาน จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android


13 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Best Ways to Increase Diabetes Life Expectancy. Verywell Health. (Available via: https://www.verywellhealth.com/top-ways-to-increase-diabetes-life-expectancy-2223560)
27 Things No One Tells You About Having Diabetes. Best Life. (Available via: https://bestlifeonline.com/living-with-diabetes/)
Type 2 Diabetes: Symptoms, Treatments, Causes, and Much More. Healthline. (Available via: https://www.healthline.com/health/type-2-diabetes)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)