เราอาจเคยได้ยินได้ฟังกันมาบ้างแล้วว่า การรับประทานอาหารกระป๋องนั้นไม่ดีต่อสุขภาพ หลายคนอาจเลิกรับประทานอาหารกลุ่มนี้ไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ามีผู้คนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังคงมองข้ามภัยใกล้ตัวนี้อยู่ เนื่องจากถูกหลอกล่อด้วยราคาที่ถูกแสนถูกและอายุไขของผลิตภัณฑ์ที่เก็บไว้ได้นานข้ามปีเลยทีเดียว
คุณทราบหรือไม่ว่า อาหารกระป๋องเหล่านี้มาพร้อมกับทั้งสารกันบูด การรั่วไหลของอะลูมิเนียมที่ใช้ทำกระป๋อง และอาหารที่ไม่ได้คุณภาพ อีกทั้งยังมีการเจือปนของสาร Bisphenol A หรือ สาร BPA ซึ่งเป็นสารเจือปนที่น่ากลัวที่สุดในอาหารกระป๋องและมีผลกระทบต่อสุขภาพที่ร้ายแรงกว่าที่คิดมาก ร้ายแรงมากถึงขั้นที่สามารถส่งต่อไปยังลูกหลานของเราได้อีกหลายชั่วรุ่นเลยทีเดียว
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ผลกระทบจากสาร BPA ในอาหารกระป๋อง
อาหารกระป๋องที่มีวางขายไม่ว่าจะเป็นตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปหรือในห้างสรรพสินค้าหรูหราล้วนแล้วแต่มีการปนเปื้อนของสารเคมีชนิดต่างๆ มากมาย และที่น่ากลัวที่สุดเห็นจะเป็นสาร Bisphenol A (BPA) ที่เป็นสารประกอบในการผลิตพลาสติกและผลิตภัณฑ์จำพวกยาง อีกทั้งยังใช้เคลือบด้านในกระป๋องอะลูมิเนียมที่ใส่อาหารด้วย หากคุณยังเลือกที่จะรับประทานอาหารกระป๋องแล้ว ก็ควรเตรียมตัวเตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับผลกระทบที่จะตามมาได้เลย
[caption id="" align="aligncenter" width="640"] อาหารกระป๋องที่นิยมในไทย[/caption]
ผลการวิจัยล่าสุดเกี่ยวกับผลกระทบจากสาร BPA ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารงานวิจัยในต่างประเทศ และผลสรุปที่ได้นี้ถือว่าน่าทึ่งเลยทีเดียว โดยการวิจัยนี้ให้หนูทดลองกลุ่มหนึ่งกินอาหารที่มีสาร BPA เจอปนเพียงเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณที่พบในอาหารกระป๋องที่เรากิน และหนูอีกกลุ่มกินอาหารธรรมดา ปรากฎว่าหนูกลุ่มที่ได้รับสาร BPA นี้มีอาการเก็บตัวกว่าอีกกลุ่มมาก ไม่เดินสำรวจกรงหรือของเล่นในกรงเหมือนเคย สังสรรค์กับหนูตัวอื่นน้อยลงมาก และมีอาการคล้ายกับเด็กที่เป็นออทิสติกหรือโรคสมาธิสั้นด้วย ผลสรุปประการแรกจากการทดลองนี้คือ สาร BPA สามารถทำลายการทำงานของสมองและฮอร์โมนในสมองได้
นอกจากนี้ นักวิจัยเปิดเผยว่าพฤติกรรมแปลกๆที่เกิดจากการที่สมองถูกทำลายไม่ได้เกิดขึ้นแค่เฉพาะตัวหนูทดลองกลุ่มที่กินสาร BPA เข้าไปเท่านั้น แต่ยังส่งต่อไปถึงลูกหลานของหนูกลุ่มนี้อีกถึง 3 ทอดให้มีลักษณะของการที่สมองถูกทำลายเช่นกัน ซึ่งข้อสรุปอีกข้อที่ได้ก็คือ ฤทธิ์ของสาร BPA สามารถทำลายพันธุกรรมได้มากถึง 4 ชั่วรุ่น
[caption id="" align="aligncenter" width="600"] บรรจุขวดแก้ว[/caption]
การทดลองนี้ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของสาร BPA ที่ร้ายแรงมาก หากมนุษย์เรามีการบริโภคสารนี้เข้าไปแล้วสิ่งที่ตามมาก็คืออาการทางสมองอย่างแน่นอน และความผิดปกตินี้ก็ยังสามารถส่งต่อไปยังลูกหลานของเราได้อีกด้วย การหลีกเลี่ยงที่ดีที่สุดคือการเลิกรับประทานอาหารกระป๋อง แต่หากมีความจำเป็นที่จะต้องบริโภคอาหารที่สามารถเก็บไว้ได้นาน แนะนำให้บริโภคแบบที่มีการบรรจุใส่ขวดแก้วหรือบริโภคอาหารแห้งแทน