อาการวิงเวียนศีรษะ คือ อาการรู้สึกวิงเวียนคล้ายจะเป็นลม รู้สึกว่าร่างกายหนักกว่าปกติ มึนงง ทรงตัวไม่อยู่ มีอาการตาพร่ามัว แม้อาการนี้จะไม่ได้มีความรุนแรงมาก แต่ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการหกล้ม และอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคบางอย่างได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการวิงเวียนศีรษะมักเกิดได้บ่อยเมื่อมีการเปลี่ยนอิริยาบถจากท่านั่งมาเป็นท่ายืนเร็วเกินไป ทำให้เลือดไหลเวียนไปที่สมองลดลง แต่ถ้านั่งลงหรือนอนราบลงนิ่งๆ ประมาณ 5-10 นาที อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
อีกหนึ่งอาการวิงเวียนที่พบได้บ่อย คือ อาการเวียนศีรษะบ้านหมุน (Vertigo) ที่ทำให้ผู้ป่วยมีความรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมภายนอกกำลังหมุนอยู่ หลายคนรู้สึกว่าตนเองกำลังลอย เอียง โยก หรือหมุนวน ผู้ที่มีอาการนี้มักมีสาเหตุมาจากโรคของหูชั้นใน (Inner Ear Disorders) ที่ส่งสัญญาณไปยังสมองไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ตามองเห็นและการรับความรู้สึกของเส้นประสาท
สาเหตุของอาการวิงเวียนศีรษะ
นอกจากอาการขาดน้ำและการเปลี่ยนอิริยาบถร่างกายที่เร็วเกินไป ยังมีสาเหตุอื่นที่ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ ได้แก่
- โรคหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด หรือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ
- เลือดออกภายในร่างกาย (Internal Bleeding)
- ภาวะช็อก (Shock) ทำให้ความดันโลหิตต่ำลงอย่างรวดเร็ว
- โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)
- อาการแพ้ (Allergy)
- การเมาความสูง (Altitude Sickness)
- เป็นไข้หวัด (Fever)
- เป็นไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
- น้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)
- สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้ยาเสพติด
- ร่างกายขาดน้ำจากอาการอาเจียน ท้องเสีย เป็นไข้ และจากโรคอื่นๆ
- หายใจลึก หรือ หายใจเร็ว (Hyperventilation)
- วิตกกังวลและความเครียด
เมื่อไรที่ต้องไปพบแพทย์
หากพบอาการต่อไปนี้ร่วมกับการวิงเวียนศีรษะ ให้รีบโทรสายด่วน 1669 ทันที เพราะอาจเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด หรือโรคหลอดเลือดสมอง
- ใบหน้าหย่อนลงมาข้างใดข้างหนึ่ง
- คลื่นไส้ อาเจียน
- รู้สึกแน่นหน้าอก หรือเจ็บหน้าอก
- หายใจลำบาก
- เหงื่อออกแบบไม่ทราบสาเหตุ
การรักษาอาการวิงเวียนศีรษะ
อาการวิงเวียนศีรษะที่ไม่ได้เกิดจากภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ มักจะมีอาการดีขึ้นเองในเวลาไม่นาน ซึ่งผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองที่บ้านได้ ด้วยการดื่มน้ำให้มากขึ้น รับประทานหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ และนอนราบหรือนั่งลงเพื่อให้ศีรษะต่ำลง
สำหรับผู้ที่มีอาการวิงเวียนศีรษะรุนแรง หรือดูแลตัวเองที่บ้านแล้ว แต่อาการยังไม่หายไป ก็อาจต้องรักษาด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
- รับประทานอาหารที่มีปริมาณเกลือต่ำ
- การให้ยาต้านอาเจียน
- การให้ยาคลายกังวล เช่น Diazepam หรือ Alprazolam
- การให้ยาแก้ปวดศีรษะไมเกรน
- การฝึกการทรงตัว การบริหารและฝึกระบบประสาททรงตัว (Vestibular Rehabilitation)
- การให้ยาปฏิชีวนะชนิดฉีดในกรณีที่อาการวิงเวียนศีรษะเกิดจากการติดเชื้อที่หู
การป้องกันอาการวิงเวียนศีรษะ
ควรลุกขึ้นยืนช้าๆ หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนท่าทางอย่างรวดเร็ว ดื่มน้ำให้เพียงพอเมื่อเจ็บป่วยหรือกำลังออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดจ้า หลีกเลี่ยงการได้รับสารใดๆ ที่ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ เช่น แอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ จะช่วยป้องกันอาการวิงเวียนศีรษะได้