ตกขาว ถือเป็นเรื่องปกติของผู้หญิงที่อยู่ในช่วงวัยเจริญพันธุ์ ตกขาวคือ สารคัดหลั่ง ลักษณะเป็นมูกใสๆ หรือเป็นสีขาวขุ่น อาจมีกลิ่นเล็กน้อยแต่ไม่รุนแรง และไม่มีอาการคันใดๆ ตกขาวทำหน้าที่หล่อเลี้ยงและหล่อลื่นบริเวณช่องคลอดและปากมดลูกให้ชุ่มชื้นตลอดเวลา ปริมาณของตกขาวจะแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิง ฮอร์โมนเพศจะมีปริมาณเพิ่มขึ้นและลดลงตามจังหวะรอบประจำเดือนโดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ ในช่วงนี้ฮอร์โมนเพศหญิงของคุณแม่จะเพิ่มระดับสูงขึ้นกว่าช่วงที่ไม่ตั้งครรภ์อย่างมากส่งผลให้ตกขาวอาจมีปริมาณมากกว่าปกติ เรื่องนี้คุณแม่ทั้งหลายอย่าเพิ่งตกใจ หรือกังวลไปว่า ตกขาวตั้งครรภ์จะมีอันตรายต่อตนเองและลูกน้อยในครรภ์หรือไม่ ขอย้ำอีกครั้งว่า การมีปริมาณตกขาวมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรง เพียงแต่ต้องใส่ใจให้มากขึ้นเท่านั้น
จะดีไม่น้อย หากคุณแม่หมั่นสังเกตลักษณะตกขาวที่ออกมาว่าเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ อย่างไร หรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วยหรือไม่ อย่างไร เช่น มีอาการคันบริเวณช่องคลอด คันอวัยวะเพศ ตกขาวมีกลิ่นเหม็นคาว ตกขาวมีสีเหลือง เหลืองอมเขียว น้ำตาล เทา มีอาการปัสสาวะแสบขัด หากมีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้นก็ตาม คุณแม่อย่างนิ่งเฉยแต่ควรรีบไปพบแพทย์ให้เร็วที่สุด
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
สาเหตุที่ทำให้ตกขาวตั้งครรภ์ผิดปกติ
ตกขาวตั้งครรภ์ที่เกิดจากการติดเชื้อรา
พบได้บ่อยมาก เพราะระหว่างตั้งครรภ์จะมีการเปลี่ยนแปลงของช่องคลอดมากทำให้สภาพช่องคลอดเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อรามากขึ้น ตกขาวตั้งครรภ์จะมีปริมาณมาก มีสีขาว หรือลักษณะคล้ายแหวะนมของเด็ก มีอาการคันที่ช่องคลอดและอวัยวะเพศร่วมด้วย อาจมีผื่นคันแดง หรือบวมบริเวณปากช่องคลอด มีหลายสาเหตุที่ทำให้ติดเชื้อ เช่น อวัยวะเพศอับชื้น ผลข้างเคียงจากการใช้ยาปฏิชีวนะ การใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีส่วนผสมของยาปฏิชีวนะ รวมถึงบางรายที่ร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำ จะทำให้เชื้อเจริญเติบโตได้ดี หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วนเพราะอาจเป็นอาการติดเชื้อรา หรือกามโรค ซึ่งจะเป็นอันตรายเวลาคลอดลูก
ตกขาวตั้งครรภ์ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส
ตกขาวตั้งครรภ์จะมีลักษณะสีเหลือง (คล้ายหนอง) และมีกลิ่นเหม็น เกิดจากการติดเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อไวรัส เช่น โรคเริม เป็นต้น
ตกขาวตั้งครรภ์ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
ตกขาวตั้งครรภ์จะมีลักษณะสีขาว สีเทา หรือสีเหลืองอมเขียว (หรือค่อนไปทางเขียว) มีอาการคันบ้าง จะมีกลิ่นเหม็นคาวปลา แลมีะอาการปัสสาวะแสบขัดร่วมด้วย
การรักษาตกขาวตั้งครรภ์
ตกขาวตั้งครรภ์ไม่ยุ่งยากและมักหายขาดได้ หากรักษาอย่างถูกต้อง แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้เช่นกัน
การดูแลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
สามารถทำและดูแลได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายดังนี้
- ทำความสะอาดอวัยวะเพศให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังการขับถ่ายทุกครั้ง
- อย่าให้อวัยวะเพศอับชื้น
- สวมชุดชั้นในที่สบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป
- ไม่ควรใช้น้ำยาพิเศษสวนล้างช่องคลอด หรือใช้น้ำฉีดสวนเข้าไป แค่ทำความสะอาดด้วยน้ำธรรมดาแล้วซับน้ำให้แห้งก็เพียงพอแล้ว
- การซับน้ำหลังการทำความสะอาดที่ถูกต้องควรเช็ดจากช่องคลอดไปทางทวารหนัก ห้ามเช็ดจากทวารหนักมาทางช่องคลอดเพราะเชื้อโรคที่ (อาจ) ติดอยู่บริเวณทวารหนักอาจเข้าสู่ช่องคลอดได้
ตกขาวตั้งครรภ์ หรือน้ำเดิน
ในช่วงใกล้คลอดนั้น คุณแม่อาจมีมูก หรือน้ำออกมาจากช่องคลอด ซึ่งคล้ายกับตกขาวปกติ แต่จริงๆ แล้วอาจเป็นอาการเริ่มแรกของการเจ็บท้องคลอดได้ เนื่องจากเมื่อใกล้คลอดปากมดลูกจะเริ่มเปิดทำให้มูกซึ่งอุดอยู่บริเวณนั้นหลุดออกมา บางรายอาจมีเลือดปนออกมาด้วย แม้ว่าโดยปกติน้ำเดินจะไหลออกมาปริมาณมาก แต่ในบางกรณีน้ำอาจค่อยๆ ไหลออกมาทีละน้อยเหมือนตกขาวมากกว่าปกติ ดังนั้นหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในช่วงใกล้คลอด คุณแม่ควรรีบไปโรงพยาบาล เพราะถ้าหากปล่อยไว้นานอาจเป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
คุณแม่ควรหมั่นสังเกตตนเองทุกวันเพราะหากมีตกขาวตั้งครรภ์ผิดปกติ หรือมีความผิดอื่นๆ เกิดขึ้น จะได้รีบไปพบแพทย์เพื่อรักษาให้ถูกต้องและเหมาะสม