โรคหัวใจเป็นสาเหตุการตายอันดับต้นๆในหลายๆประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศไทย แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยการค้นหาความเสี่ยง ปรับเปลี่ยนนิสัยการบริโภคและวิถีการดำเนินชีวิต
ผู้ที่มีเบาหวานหรือเบาหวานแฝงเท่ากับเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจหรือเส้นเลือดสมองตีบ วิธีที่จะลดความเสี่ยงคือดูแลระดับน้ำตาล ความดันโลหิต และระดับคอเลสเตอรอลให้ใกล้เคียงปกติมากที่สุด
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
การที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอยู่เสมอจะทำลายเส้นประสาทและหลอดเลือด ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคแทรกซ้อนในคนที่เป็นเบาหวานนำไปสู่การสูญเสียสายตา ไตวาย และการถูกตัดนิ้วตัดเท้า
ตัวเลขควรรู้เกี่ยวกับหัวใจ
- ปริมาณเลือดที่หัวใจต้องสูบฉีดตลอดชีวิตเฉลี่ยใน 1 ปี ประมาณ 1,000,000 บาร์เรล [= 1,000,000 x 159 (1 บาร์เรล = ~159 ลิตร) = 159,000,000 ล้านลิตร]
- หัวใจคนเราเต้นประมาณ 3,000,000 ครั้งใน 1 ปี
- หัวใจของคนอายุ 70 ปี เต้นมาทั้งหมด 2.5 พันล้านครั้ง
- ถ้านำเส้นเลือดในร่างกายทั้งหมดมาเหยียดออกจะมีความยาวประมาณ 60,000 ไมล์ [60,000 x 1.6 (1 ไมล์ = ~ 96,000 กิโลเมตร]
- ทั่วโลกมีคนตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจรวมทั้งเส้นเลือดในสมองแตกประมาณ 12 ล้านคนต่อปี
คุณมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจหรือไม่ ลองประเมินปัจจัยเสี่ยงต่อไปนี้
1. อายุ ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นตามอายุ ผู้ชายอายุ 45 ปีขึ้นไปและผู้หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น มากกว่า 83 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจเป็นผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปควรตรวจระดับไขมันในเลือดอย่างน้อยทุก 5 ปี หรือบ่อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแพทย์
2. เพศ เพศชายอายุ 56 ปีขึ้นไปมีความเสี่ยงต่อหัวใจวายมากกว่าเพศหญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป และมักจะมีหัวใจวายเมื่ออายุยังน้อย แต่ผู้หญิงหลังหมดประจำเดือนระดับแอลอีแอลคอเลสเตอรอลในเลือดหรือไขมันวายร้ายมักสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงไม่ควรประมาทเช่นกัน
3. ประวัติในครอบครัว มีญาติสายตรงเป็นโรคหัวใจตั้งแต่อายุยังน้อย
- มีพ่อหรือพี่ชาย น้องชาย มีประวัติโรคหัวใจก่อนอายุ 55
- มีแม่หรือพี่สาว น้องสาวมีประวัติโรคหัวใจก่อนอายุ 65
4. มียีนชนิดที่เพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ พบได้จากการตรวจยีน
5. อ้วน ทำให้คอเลสเตอรอลสูงได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
6. เบาหวาน โดยเฉพาะผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 และอ้วน
7. คอเลสเตอรอลผิดปกติ คือมีระดับเอชดีแอล (คอเลสเตอรอลชนิดดี) ต่ำ ระดับแอลดีแอล (คอเลสเตอรอลชนิดร้าย) สูง ข้อมูลจากการวิจัยใหม่ๆ พบว่า ผู้หญิงที่มีคอเลสเตอรอลสูงมีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน (Ischemic Stroke) เป็น 2 เท่า ของผู้หญิงที่มีระดับคอเลสเตอรอลต่ำ ถึงแม้จะไม่มีประวัติโรคหัวใจหรือเส้นเลือดสมองตีบมาก่อน ระดับไขมันในเลือดจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองตีบ
8. การอักเสบเรื้อรัง เป็นสาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดหัวใจ
9. ความดันโลหิตสูง (³ 140/90 มิลลิเมตรปรอท)
10. สูบบุหรี่
11. ขาดการออกกำลังกาย
นอกจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวยังมีปัจจัยเสี่ยงร่วมในการเกิดโรคหัวใจคือ
- ความเครียด เวลาที่เครียดคนเรามักหาวิธีลดความเครียดด้วยวิธีต่างๆ หลายครั้งวิธีต่างๆเหล่านั้นมักจะนำไปสู่ความเสี่ยงของโรคหัวใจ เช่น การสูบบุหรี่หรือกินคลายเครียด
- ฮอร์โมนเพศ ผู้หญิงอายุ 40-60 ปี หรือช่วงที่เข้าสูงวัยหมดประจำเดือน ความเสี่ยงของการเกิดหัวใจวายจะมีสูงขึ้น ครึ่งหนึ่งของคนที่อายุ 65 ปีขึ้นไปที่มีหัวใจวายมักเป็นผู้หญิง ขณะที่ผู้หญิงอายุต่ำกว่า 40 ไม่ค่อยมีปัญหาหัวใจวาย เพราะมีฮอร์โมนเพศหญิง “เอสโทรเจน” ช่วยปกป้องไว้
- ยาคุมกำเนิด อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจได้ โดยเฉพาะคนที่อายุ 35 ปีขึ้นไป ถ้าอายุน้อยกว่านี้และไม่สูบบุหรี่ การใช้ยาคุมกำเนิดถือว่าปลอดภัยและไม่เพิ่มความเสี่ยง แต่ถ้าสูบบุหรี่ โอกาสเกิดโรคหัวใจจะสูงขึ้น โดยเฉพาะในผู้หญิงที่อายุเกิน 35 ปี
- แอลกอฮอล์ การดื่มพอประมาณ คือผู้ชายไม่เกินวันละ 2 ดริ๊งค์ ส่วนผู้หญิงวันละไม่เกิน 1 ดริ๊งค์ จะช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ แต่ถ้าดื่มมากกว่านั้นจะเพิ่มความเสี่ยง เพราะแอลกอฮอล์มีแคลอรี่สูงเป็นการเพิ่มปัจจัยเสี่ยงอื่นๆของโรคหัวใจ เช่น อ้วน ความดันโลหิตสูงและสโตรก