ไทฟอยด์ หรือไข้ไทฟอยด์ เป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิต โดยเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซาโมเนลลา (Salmonella typhi.) ซึ่งองค์กรควบคุมโรค หรือ CDC (Center for Disease Control) พบว่า 21.5 ล้านคนในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเป็นโรคไทฟอยด์ในแต่ละปี
เนื้อหา โรคไทฟอยด์
- สาเหตุ
- ปัจจัยเสี่ยง
- อาการ
- การวินิจฉัย
- การรักษา
- โรคแทรกซ้อน
- การป้องกัน
สาเหตุ
ไทฟอยด์ หรือไข้ไทฟอยด์ เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ซาโมเนลลา (Salmonella typhi.) แพร่กระจายได้ง่ายในแหล่งน้ำปนเปื้อน หรืออาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ถูกสุขลักษณะ โดยแบคทีเรียจะอยู่ในร่างกายบริเวณลำไส้และกระแสเลือด และส่งต่อไปยังอุจจาระและปัสสาวะ ดังนั้นการแพร่กระจายของโรคจึงเกิดจากสิ่งปฏิกูลเหล่านี้จากผู้ป่วยปะปนลงในแหล่งน้ำดื่ม หรืออาหารที่ไม่ถูกสุขอนามัย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อาการ
อาการของโรคจะเกิดขึ้นหลังจากผู้ป่วยได้รับเชื้อประมาณ 1-3 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ระยะฟักตัวของเชื้อประมาณ 7-14 วัน โดยอาการของโรคมีดังนี้
- ปวดศีรษะ
- ท้องผูกหรือท้องเสีย
- ไข้สูง
- ง่วงซึม
- เบื่ออาหาร
- ตับ ม้ามโต
- มีจุดแดงบริเวณหน้าอก
- แน่นหน้าอก
- ปวดท้อง
- เหนื่อยล้า
- หนาวสั่น
- ปวด และไม่มีแรง
การวินิจฉัย
วินิจฉัยโดยการตรวจร่างกาย เพื่อหาอาการของโรค ทั้งนี้ต้องดูประวัติการใช้ยา ประวัติการเป็นโรค ประวัติการเดินทางของผู้ป่วยด้วย เพื่อประเมินการติดเชื้อ
ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (Complete Blood Count; CBC) หากเป็นโรคจะมีค่านี้ขึ้นสูง โดยปริมาณเม็ดเลือดขาว (WBC) จะสูง
- การเพาะเชื้อ จะนำเลือดมาเพาะหาเชื่อแบคทีเรีย โดยจะทำตั้งแต่ช่วงแรกของการเริ่มเป็นโรค
- การทดสอบด้วยวิธีอีไลซา (ELISA) เป็นการวินิจฉัยโรคโดยนำปัสสาวะผู้ป่วยมาตรวจสอบ เพื่อดูแบคทีเรียที่ก่อโรค
- การตรวจโดยการใช้แอนติบอดี (Fluorescent antibody) วิธีนี้จะใช้สารใดก็ได้ที่มีความจำเพาะเจาะจงกับแบคทีเรียชนิดนี้มาทดสอบ
- ปริมาณเกล็ดเลือด ผู้ป่วยจะมีปริมาณเกล็ดเลือดต่ำ
- การเพาะเชื้อโดยใช้อุจจาระ เพื่อเป็นการตรวจหาเชื้อในอุจจาระ
การรักษา
ใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ciprofloxacin หรือ ceftriaxone แต่อย่างไรก็ตามบางครั้งเชื้อมีการดื้อต่อยาดังนั้นจึงต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง และควรดื่มน้ำสะอาดมากๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
โรคแทรกซ้อน
- ไตวาย
- เลือดออกในทางเดินอาหารอย่างรุนแรง
- ลำไส้ทะลุ
- เยื่อบุช่องท้องอักเสบ
การป้องกัน
- รักษาความสะอาดและรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัย
- ล้างมือบ่อยๆ
- เตรียมอาหารด้วยวิธีที่ถูกสุขอนามัย
- รับประทานอาหารที่ร้อนและปรุงสุกใหม่ๆ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานผักหรือผลไม้ดิบ และดื่มน้ำที่สะอาด
- รักษาความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องครัว
- หากต้องเดินทางไปในที่ที่มีความเสี่ยงของโรคควรรับวัคซีนก่อนที่จะเดินทาง