คาเนสเทน (Canesten) เป็นยาต้านเชื้อรา ใช้สำหรับรักษาการติดเชื้อราในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย เช่น ในช่องปาก หนังศีรษะ เล็บ บริเวณง่ามนิ้วหรือง่ามขาที่เรียกว่า ฮ่องกงฟุต ตามลำตัวหรือที่เรียกว่ากลากเกลื้อน รวมถึงภายในช่องคลอด
ดังนั้นยาคาเนสเทนจึงมีหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ใช้ได้เหมาะสมกับบริเวณที่มีการติดเชื้อ เช่น ยาเม็ดชนิดรับประทาน ยาเม็ดเหน็บช่องคลอด หรือยาครีมชนิดทา
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตัวอย่างยาคาเนสเทนและวิธีการใช้
ยาคาเนสเทนมีจำหน่ายในหลากหลายรูปแบบ ขอยกตัวอย่างแยกตามชื่อทางการค้า ดังนี้
1. Canesten® Vaginal tablet (คาเนสเทน ชนิดเม็ดสอดช่องคลอด) ตัวยาโคลไทรมาโซล (Clotrimazole)
- รูปแบบยา ยาเม็ดสอดช่องคลอดขนาด 100 มิลลิกรัม จำนวน 6 เม็ด และ ขนาด 500 มิลลิกรัม จำนวน 1 เม็ด
- ชนิดเชื้อที่ตอบสนองต่อยา เป็นยาฆ่าเชื้อราชนิดออกฤทธิ์ได้กว้าง (ฺBoard spectrum) ที่ฆ่าเชื้อราชนิดต่างๆ เช่น เดอร์มาโตไฟต์ ยีสต์ Cryptococcus sp., Aspergillus fumigatus, และเชื้อราอื่นๆ เชื้อไตรโคโมแนส (Tricomonas) แบคทีเรียแกรมบวก แบคทีเรียกรัมลบที่ไวต่อยานี้
- ข้อบ่งใช้ รักษาการติดเชื้อราแคนดิดาในช่องคลอด
- วิธีใช้และข้อควรระวัง ขนาด 100 มิลลิกรัม: สอดช่องคลอดครั้งละ 1 เม็ด วันละ 1 ครั้ง จนครบ 6 เม็ด - ขนาด 500 มิลลิกรัม: สอดช่องคลอดครั้งเดียว
2. Canesten® Cream (คาเนสเทน ครีม) ตัวยาโคลไทรมาโซล (Clotrimazole) 1%
- รูปแบบยา ยาครีม ขนาด 10 กรัม และ 20 กรัม
- ชนิดเชื้อที่ตอบสนองต่อยา เป็นยาฆ่าเชื้อราชนิดออกฤทธิ์ได้กว้าง (board spectrum) ที่ฆ่าเชื้อราชนิดต่าง ๆ เช่น เดอร์มาโตไฟต์ ยีสต์ Cryptococcus sp., Aspergillus fumigatus, และเชื้อราอื่นๆ เชื้อไตรโคโมแนส (Tricomonas) แบคทีเรียกรัมบวก แบคทีเรียแกรมลบที่ไวต่อยานี้
- ข้อบ่งใช้ รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา เช่น กลาก เกลื้อน น้ำกัดเท้าหรือฮ่องกงฟุต รวมถึงเชื้อราบริเวณขาหนีบ รักแร้ ข้อพับ รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อแคนดิดาบริเวณอวัยวะเพศหญิงภายนอก (Candida vulvitis) และบริเวณอวัยวะเพศชายภายนอก (Candida balanitis)
- วิธีใช้และข้อควรระวัง ทาทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง ควรทาให้เลยบริเวณขอบที่เป็นประมาณ 1-2 เซนติเมตร ระยะเวลาการรักษาขึ้นกับความรุนแรงของโรคและบริเวณที่เป็นโรค
3. Canesten® O.D. (คาเนสเทน โอ.ดี.) ตัวยาไบโฟนาโซล (Bifonazole) ความเข้มข้น 1%
- รูปแบบยา ยาครีม ขนาด 10 กรัม
- ชนิดเชื้อที่ตอบสนองต่อยา เป็นยาฆ่าเชื้อราชนิดกว้าง (broad spectrum) ฆ่าได้ทั้งเชื้อเดอร์มาโตไฟต์ ยีสต์ และเชื้อราอื่น ๆ เช่น Malassezia furfur และยังมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium minutissimum และเชื้อแบคทีเรียกรัมบวกบางชนิด เช่น Staphylococcus และ Streptococcus
- ข้อบ่งใช้ รักษาโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อเดอร์มาโตไฟต์ ยีสต์ และเชื้อราอื่น ๆ เช่น กลากที่เท้า กลากที่มือ กลากที่ลำตัว กลากที่ขาหนีบ เกลื้อน และโรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อแคนดิดา และมีฤทธิ์ต้านการอักเสบด้วย
- วิธีใช้และข้อควรระวัง ทาวันละ 1 ครั้ง ควรทาตอนเย็นก่อนเข้านอน ระยะเวลาในการรักษาขึ้นกับความรุนแรงของโรค และบริเวณโรคที่เป็น ห้ามใช้ยาสำหรับการติดเชื้อราบริเวณเนื้อเยื่ออ่อน เช่น ภายในช่องปากหรือภายในช่องคลอด
คำเตือนและข้อควรระวังในการใช้ยาคาเนสเทนอย่างปลอดภัย
- หากใช้ยาไม่ครบจำนวน หรือลืมทานบ่อยๆ การติดเชื้อนั้นก็อาจจะคงเหลืออยู่และทำให้อาการต่าง ๆ ที่เริ่มดีขึ้นกลับมาเป็นใหม่ได้อีกครั้ง และหากมีการติดเชื้อเกิดขึ้นใหม่ การรักษาก็จะยากและลำบากมากขึ้นเนื่องจากเชื้อจะมีอาการดื้อยาแล้วนั่นเอง
- การใช้ยาคาเนสเทนอาจมีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ระคายท้อง หรือปวดท้อง
- ควรแจ้งแพทย์และเภสัชกรทุกครั้งถึงโรคประจำตัว ประวัติการใช้ยาในปัจจุบัน และประวัติการแพ้ยา เพื่อหลีกเลี่ยงการแพ้ยาซ้ำและยาตีกัน เนื่องจากยาคาเนสเทนอาจขัดขวางการออกฤทธิ์ของยาชนิดอื่นหรือเสริมฤทธิ์ยาชนิดอื่นให้รุนแรงขึ้นได้
- ผู้ที่มีภาวะโรคตับและไต ควรระมัดระวังการใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา เนื่องจากยาอาจทำให้โรคตับและไตที่เป็นอยู่ทรุดหนักลง
- ควรใช้ยาที่แพทย์หรือเภสัชกรจ่ายจนครบจำนวนแม้ว่าอาการจะเริ่มดีขึ้นแล้วก็ตาม เพื่อให้ได้ผลในการรักษาและป้องกันการเกิดเชื้อดื้อยา การใช้ยาคาเนสเทนให้ครบตามกำหนดเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากเพื่อที่จะได้กำจัดเชื้อราไปให้หมดสิ้นจากร่างกาย
- หากใช้ยาและมีอาการหายใจไม่สะดวก ลำคอตีบตัน ผื่นขึ้นตามตัว เนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ บวม เช่น บริเวณตาและปาก ควรหยุดยาและพบแพทย์ทันที เนื่องจากผู้ใช้อาจเกิดอาการแพ้ยาคาเนสเทน
อาการที่บ่งบอกว่าคุณอาจจะกำลังติดเชื้อรา
การติดเชื้อจากเชื้อราอาจพบได้หลายรูปแบบ แต่อาการที่มักพบได้บ่อย คือ กลาก เกลื้อน การติดเชื้อแคนดิดา ดังนี้
1. การติดเชื้อแคนดิดา
มักพบบริเวณที่มีการอับชื้น เช่น ขาหนีบ ข้อพับ รักแร้ เท้า มีลักษณะเป็นผื่นแฉะ สีแดง มีอาการคันมาก และสามารถพบได้ในช่องปากลักษณะเป็นฝ้าขาวบริเวณลิ้น โดยมักพบในผู้ป่วยที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การติดเชื้อแคนดิดายังสามารถพบในช่องคลอดได้อีกด้วย โดยพบว่าเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย มีรายงานว่าผู้หญิง 3 ใน 4 คนเคยติดเชื้อราในช่องคลอดอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต
อาการที่พบ ได้แก่ คันและระคายเคืองบริเวณช่องคลอดหรือภายในช่องคลอด มีอาการบวมบริเวณอวัยวะเพศ รู้สึกแสบร้อนขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือเมื่อปัสสาวะ มีผื่นแดงบริเวณอวัยวะเพศ มีตกขาวเป็นสีขาวครีมข้น ไม่มีกลิ่น หรือบางรายอาจติดเชื้อราร่วมกับเชื้อแบคทีเรียทำให้มีกลิ่นเหม็นได้
นอกจากนี้ บางรายอาจไม่แสดงอาการผิดปกติแม้ว่าจะมีการติดเชื้อราก็ตาม
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
2. กลาก
เกิดจากเชื้อราในกลุ่มเดอร์มาโทไฟท์ มีลักษณะเป็นวงขาวๆ ขอบเขตชัดเจน มีอาการคัน พบตามผิวหนังบริเวณหลัง ใบหน้า และลำตัว มักพบในนักกีฬา ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง และผู้ที่ไม่รักษาความสะอาด
3. เกลื้อน
เกิดจากเชื้อรา Malassezia furfur มีลักษณะคล้ายกับกลาก เป็นวงเรียบๆ สีขาว สีน้ำตาล หรือสีดำ แต่ขอบเขตไม่ชัดเจน มักไม่มีอาการคัน นอกจากเวลาที่มีเหงื่อออกมากอาจมีอาการคันเล็กน้อย
ยาคาเนสเทนเป็นยาที่ใช้ในการรักษาการติดเชื้อราบริเวณต่างๆ ได้ดี แต่มีหลายรูปแบบ แต่ละรูปแบบก็มีวิธีการใช้งานและข้อควรระวังที่แตกต่างกันไป เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยา ควรสอบถามข้อบ่งใช้ รวมถึงวิธีการใช้ยาอย่างถูกต้องจากเภสัชกรก่อน
ดูแพ็กเกจตรวจสุขภาพ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android