September 09, 2019 14:23
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้ากินภายใน 120 ชั่วโมงนับจากมีเพศสัมพันธ์ ก็ยังช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ ยิ่งกินเร็วยิ่งดีครับ
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ได้ครับ
และ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ
ระหว่างรอประจำเดือนจริงๆมา ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องคือประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
ส่วนเรื่องปวดท้องน้อย ถ้าปวดไม่มาก อาจเป็นภาวะที่มดลูกบีบตัวเนื่องจากมีเลือดค้างอยู่ก็ได้ครับ เเต่ถ้าปวดมาก ใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้ พักเเล้วไม่ดีขึ้น เเนะนำพบเเพทย์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
คุณหมอคะ หลังจากที่เจ็บท้องน้อยต่อเนื่องมา ก็มีเลือดออกในวันนี้ และเจ็บท้องหน่วงๆ ตลอดวันเลยค่ะ อยากทราบว่าควรไปพบหมอไหมคะ
ภาวะที่มดลูกบีบตัวเป็นผลข้างเคีย
งของการทานยาคุมฉุกเฉินไหมคะคุณหมอ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉิน แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ
ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน อาจทำให้ผู้ใช้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม ไม่สบายท้อง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ค่ะ โดยอาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ และอาจพบอยู่เพียงแค่วันเดียว หรือเป็นต่อเนื่องกัน 2 - 4 วันก่อนที่จะหายไปเอง
ดังนั้น อาการปวดท้องน้อยของผู้ถาม หากไม่รุนแรง และไม่มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย (เช่น ตกขาวผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นคาวหรือกลิ่นรุนแรง แสบหรือคันช่องคลอด) ก็เป็นไปได้ว่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินที่ใช้นั่นเองนะคะ
ซึ่งไม่ว่าจะมีผลข้างเคียงจากยาหรือไม่มี ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์ จึงต้องรอดูไปก่อนว่าผู้ถามจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนน่าจะมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ แนะนำให้ตรวจการต้้งครรภ์ด้วยการใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ และยังไม่พร้อมจะมีบุตร ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ เพราะประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงมาก การนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จ และอาจตั้งครรภ์ไม่พร้อมได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ขอบคุณนะคะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อยากสอบถามคุณหมอว่า พอดีมีเพศสัมพันธ์แล้วแฟนหลั่งใน ประมาณราว ตี1 และแฟนไปซื้อยาคุมฉุกเฉินแบบเม็ดเดียวของ เมเปิ้ลฟอร์ท มาให้ทาน ประมาณ 4 ทุ่ม อยากทราบว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ไหมคะและหลังจากทาน รู้สึกว่าเจ็บท้องน้อยมา 2 วันแล้วค่ะ อยากทราบเป็นผลที่เกี่ยวข้องกันไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)