June 22, 2019 18:49
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
เเนะนำหาเวลาพบเเพทย์ครับ น่าจะมีอาการของช่องคลอดติดเชื้อ ร่วมกับทางเดินปัสสาวะติดเชื้อครับ
1.น้ำขาวขุ่นน่าจะเป็นตกขาวครับ
ตกขาว คือ ของเหลวที่ไหลออกมาจากช่องคลอด เป็นของเหลวที่ถูกขับออกจาก ปากมดลูก ปากช่องคลอด และเซลล์ของเยื่อบุผนังช่องคลอดที่ตายและหลุดออกมา ครับ
ตกขาวที่ปกติคือ มีสีขาวขุ่น มีกลิ่นคาวเล็กน้อย อาจมีมากช่วงที่ก่อนประจำเดือนมาได้ครับถ้าไม่ได้มีอาการคันเเสบช่องคลอด ไม่ได้มีกลิ่นเหม็น ก็น่าจะปกติครับ ไม่ต้องรักษา
ถ้าตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ร่วมกับคันช่องคลอด แสบช่องคลอด อาจเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas ซึ่งอาจเกิดจากการที่เราสวนล้างช่องคลอด หรือ กินยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมดุลเเบคทีเรียในช่องคลอดเสียครับ เชื้อก่อโรคในช่องคลอดจึงเเบ่งตัวเเละเกิดการติดเชื้อได้ หรืออาจติดเชื้อมาจากคู่นอนก็เป็นไปได้ครับ
หรือโรคติดเชื้อในช่องคลอดชนิดหนึ่ง คือ Bacterial vaginosisครับ (เเบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล เชื้อชื่อ Gardernella vaginallis จึงเเบ่งตัวมากขึ้น)
อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่นอับ (musty) หรือคาวปลา (fishy) มักมีกลิ่นรุนแรงภายหลังการร่วมเพศ ซึ่งเกิดจากการทําปฏิกิริยากับ อสุจิ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้ว
ปลดปล่อยกลิ่น ออกมาครับ
.......
ถ้าสงสัยการติดเชื้อ เเนะนำให้ไปพบเเพทย์เพื่อประเมิน เพราะการติดเชื้อในช่องคลอด มีทั้ง เชื้อรา เเบคทีเรีย หรือ โปรโตซัวก็ได้
การติดเชื้อบริเวณช่องคลอดนี้ถ้าไม่ได้รักษาอาจลามไปเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ครับ ซึ่งจะมีอาการไข้ ปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเล้วครับ
.......
การรักษาเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole ส่วนเชื้อรามักใช้เป็น Clotrimazoleสอดครับ
ปรึกษาเภสัชกรลองเรื่องยาก่อนได้ครับ เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ
2.เรื่องปัสสาวะขัด
น่าจะเป็น กระเพาะปัสสาวะ หรือ ท่อปัสสาวะอักเสบ
อาการคือ
- ขณะถ่ายปัสสาวะ มีอาการแสบบริเวณปลายท่อปัสสาวะ หรือบริเวณปากช่องคลอด
- ถ้ามีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน กลางคืน ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกว่าไม่สุดต้องไปปัสสาวะอีกแม้เพิ่งปัสสาวะเสร็จ
- บางคนอาจจะมีอาการปวด หรือแสบบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยทั้งตอนปวดและไม่ปวดปัสสาวะครับ
ปัจจัยเสี่ยง เช่น
1.มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง และหลายครั้งในเวลาอันสั้น
2.ดื่มน้ำน้อย
3.กลั้นปัสสาวะนาน ๆบ่อยๆ
4.ผู้ที่เคยรับการผ่าตัด หรือการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศมาก่อนครับ
......
การรักษา คือการรับประทานยาฆ่าเชื้อครับ เช่น Ciprofloxacin
ร่วมกับ การป้องกันคือ
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- ดูแลความสะอาดบริเวณปลายท่อปัสสาวะและอวัยวะเพศ
- มีกิจกรรมทางเพศอย่างเหมาะสม โดยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรไปปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะเพศครับ
- ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานเกินไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ช่วงแรกเป็นประจำเดือนและมีไข้ ไข้ขึ้น 3 - 4 วันต่อมามีอาการปัสสวะขัดเวลาปัสสวะมีอาการเจ็บมากและมีน้ำสีขาวขุ่นไหลออกมาตลอดเวลา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)