พอดีมีเพศสัมพันธ์กับแฟนและมีการป้องกันโดยถุงยาง เช็คแล้วว่าไม่รั่วและใช้ถูกวิธี แต่ตอนนี้ประจำเดือนขาดไป 5 วันแล้ว อยากทราบว่าจะมีโอกาสท้องมั้ยคะ (ปกติเป็นคนประจำเดือนมาไม่ตรง)

สวัสดีค่ะ
ถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาน 98-99%

การที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ ยังมีสาเหตุอื่นๆ ได้แก่
-ภาวะเครียด
-อ้วน
-ถุงน้ำรังไข่
-ฮอร์โมนผิดปกติ
-เนื้องอกโพรงมดลูก

แนะนำพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งค่ะ

สวัสดีครับ
ในกรณีที่ใช้ถุงยางอย่างถูกวิธีนั้นมีโอกาสการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2% ครับ แนะนำให้ผู้ถามตรวจการตั้งครรภ์ในปัสสาวะดูด้วยตนเองดูก่อนครับ สามารถตรวจได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วันครับ สาเหตุอื่นที่ทำให้ขาดประจำเดือนได้นอกจากการตั้งครรภ์ เช่น ไข่ไม่ตก เครียด ฮอร์โมนผิดปกติ เป็นต้นครับ

ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่จะรับรองได้ว่าสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% นะคะ อย่างไรก็ตาม หากใช้ถุงยางถูกวิธี และไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ

การที่ประจำเดือนของผู้ถามคลาดเคลื่อนอยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ที่ในรอบนี้จะคลาดเคลื่อนตามที่เคยเป็นนั่นเองนะคะ

แต่ถ้าไม่มั่นใจ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

และถ้าไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือถ้ามีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริง และพิจารณาการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

"แล้วถ้าตรวจแล้วไม่ท้อง แบบนี้ยืนยันได้เลยมั้ยคะว่าไม่ท้อง"

ถ้าใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะถูกวิธีตามที่ระบุไว้ในฉลาก และตรวจในเวลาที่เหมาะสม นั่นคือ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน โดยใช้ปัสสาวะแรกของวัน และตรวจห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วัน เมื่อได้ผลตรวจออกมาเป็น 1 ขีด ก็เชื่อมั่นได้มากกว่า 99% ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ

แม้จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากถ้าใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด แต่ถ้ากังวลใจ และต้องการความชัดเจนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมตามที่แนะนำไปข้างต้นได้ค่ะ

การที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อน อาจเกิดขึ้นได้เมื่อมีความแปรปรวนของฮอร์โมนจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัย ซึ่งถ้าคลาดเคลื่อนไม่มากนัก เช่น ไม่เกิน 7 วันจากปกติ ก็ไม่เป็นไรนะคะ

แต่ถ้าประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปมาก หรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่เรื่อย ๆ หรือไม่มีประจำเดือนมาติดต่อกันนานหลายเดือนทั้งที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ก็ควรไปตรวจหาสาเหตุของความผิดปกติดังกล่าว เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมค่ะ