สวัสดีค่ะ ปัสสาวะขุ่นมาเกิน1เดือน ไม่มีอาการเจ็บปวด ผลตรวจมีเม็ดเลือดขาวปน20-30 และมีsquamous epithelial cell 5-10 แต่ทานยาฆ่าเชื้อแล้วยังปัสสาวะขุ่นอยู่เหมือนเดิม ไม่ทราบว่า การมีเม็ดเลือดขาวเกินเกณฑ์ สามารถเป็นโรคอะไรได้บ้างคะ

สวัสดีครับ
การทีเม็ดเลือดขาว ในปัสสาวะ สามารถเกิดได้ยาก 2-3 สาเหตุหลักๆครับ
ในกรณีนี้เช่น
-การติดเชื้อ ซึ่ง กรณีทานยาฆ่าเชื้อแล้วไม่ดีขึ้น / ยังคงมีเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง อาจเกิดจาก
*เชื้อดื้อยา
*เชื้ออื่นที่ไม่ปกติ
*เชื้อรา
-โรคไต เช่น กรณีทานยาบางชนิดที่เป็นพิษค่อไต
-โรคไตทำงานผิดปกติ/ไตอักเสบ

กรณีอาการไม่ดีขึ้น แนะนำพบอายุรแพทย์โรคไตครับ

สวัสดีครับ
อาการปัสสาวะขุ่นและมีเม็ดเลือดขาวในปัสสาวะนั้นเป็นอาการที่บ่งบอกว่าอาจมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ครับ

และการที่ได้รับการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อมา 1 เดือนแล้วอาการยังไม่หายไป ก็ควรได้รับการตรวจหาสาเหตุที่ทำให้การติดเชื้อไม่หายเพิ่มเติมครับ เช่น
- เชื้อมีการดื้อยา
- มีการกลั้นปัสสาวะบ่อยๆ
- มีโครงสร้างของทางเดินปัสสาวะที่ผิดปกติ
- มีนิ่วในทางเดินปัสสาวะ
- โรคเบาหวาน
- มีปัญหาภูมิคุ้มกันบกพร่อง

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุที่ทำให้อาการเหล่านี้ไม่หายไปก่อน เพื่อที่จะได้ให้การรักษาที่สาเหตุเพื่อให้โรคหายไปได้ครับ

อาการเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึงการติดเชื้อที่หลงเหลืออยู่ได้ครับ ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินหาสาเหตุต่างๆตามที่หมอได้แนะนำไปก่อนครับ