August 27, 2019 22:22
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
อาการตามที่เล่ามานี้อาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ครับ
.
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องกันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลียไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน การทำงาน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองทำแบบทดสอบตามลิงค์นี้เพื่อประเมินความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตนเองก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการยืนยันสาเหตุให้แน่ชัดก่อนเพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ
และในระหว่างนี้ถ้าหากต้องการคำปรึกษาในเบื้องต้นเพิ่มเติมก่อนการไปพบจิตแพทย์ก็สามารถโทรไปที่สายด่วนสุขภาพจิตเบอร์ 1323 ได้อีก 1 ช่องทางครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณมากค่ะ
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
สวัสดีครับ
หากมีปัญหาที่กระทบต่อสุขภาพจิตต่างๆ คิดว่าไม่สามารถจัดการกับปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้ การพบจิตแพทย์เป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์ตามสิทธิการรักษาครับ
สามารถเช็คสิทธิการรักษาได้จากเว็บไซต์ http://eservices.nhso.go.th/eServices/mobile/login.xhtml
________________________
อาการของโรคซึมเศร้า ได้แก่อาการต่างๆดังต่อไปนี้
1. มีการนอนหลับที่ผิดปกติไปจากเดิม เช่น นอนมากขึ้น หรือนอนไม่หลับ
2. ไม่สนใจในสิ่งที่เคยชอบหรือกิจกรรมที่เคยทำปกติ
3. รู้สึกว่าตนเองผิด ทำอะไรก็ผิดเสมอ
4. เคลื่อนไหวช้าลงหรือกระสับกระส่าย
5. ไม่มีสมาธิในการจดจ่อทำสิ่งต่างๆได้
6. มีความเจริญอาหารที่มากกว่าปกติ หรือเบื่ออาหารผิดปกติ
7. มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
8. อ่อนเพลีย เมื่อยล้า ไม่มีเรี่ยวแรง
ถ้ามีอาการต่างๆดังต่อไปนี้หลายข้อต่อเนื่องกันไม่น้อยกว่าสองสัปดาห์ควรไปพบจิตแพทย์ครับ หากสงสัยว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้าอาจหาแบบทดสอบคัดกรองโรคนี้ทำได้ทางอินเตอร์เน็ต หรืออาจโทรไปปรึกษาสายด่วนโรคซึมเศร้าได้ที่เบอร์ 1323 ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายครับ นอกจากนี้ยังสามารถไปพบจิตแพทย์เพื่อปรึกษาอาการต่างๆได้เสมอครับไม่จำเป็นต้องมีอาการหลายข้อหรือเป็นนานนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
การที่คนเราต้องเจอกับปัญหาในชีวิต หากเราไม่สามารถปรับตัวปรับใจยอมรับปัญหาและไม่สามารถดำเนินชีวิตให้เป็นปกติได้ แบบนี้มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต และจากอาการที่เล่ามาอาจบ่งถึงภาวะซึมเศร้าก็เป็นไปได้นะคะ
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น
อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
จากที่เล่ามามันเริ่มมาจากการมีปฎิสัมพันธ์กับครอบครัวที่ค่อนข้างส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของคุณพอสมควร และการที่เป็นแบบนี้มาหลายๆปี โดยที่ไม่ได้มีการรับมือหรือแก้ไขปัญหาที่ดีพอก็เลยทำให้ตัวคุณเองสะสมสิ่งที่ครอบครัวโยนมาใส่จนคุณเองรู้สึกว่าตอนนี้ไม่ต้องการที่จะยุ่งเกี่ยว และมีอารมณ์เศร้า ความรู้สึกอยากทำร้ายตัวเอง วนเวียนอยู่แบบนี้เยอะมาก
จากที่ผมได้สรุปมานี้ แนะนำครับว่าให้เข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะดีกว่า มันค่อนข้างชัดเจนว่าหากยังอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเดิมโดยที่ไม่มีการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงอะไร มันอาจจะทำให้สุขภาพจิตของคุณย่ำแย่ลงได้ครับ การเข้าพบกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็จะเป็นตัวช่วยที่ดีในการจัดการกับอารมณ์ ความคิด หรือแม้กระทั่งปัญหาในการรับมือกับครอบครัวที่จะช่วยให้คุณสามารถรับมือหรือตัดสินใจเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่จะส่งผลดีต่อตัวคุณได้มากขึ้น หากเจอคุณหมอที่ไม่ได้พูดคุยกันเยอะ ก็แนะนำให้ลองหานักจิตวิทยาเพื่อรับการให้คำปรึกษาควบคู่กันไปด้วยได้นะครับ คิดว่าในปัญหาตรงนี้น่าจะต้องอาศัยการให้คำปรึกษาร่วมกันไปด้วย
นอกจากการรับบริการจากนักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์แล้ว การหันกลับมาดูแลตนเองให้มากขึ้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญเช่นกัน โดยคุณสามารถลองทำกิจกรรมที่เคยสนใจหรือทำแล้วรู้สึกว่าทำให้ผ่อนคลายหรือทำให้รู้สึกดีขึ้นได้บ้าง หาเวลาให้ตนเองรู้สึกสงบ รู้สึกดี หรือสนุกผ่อนคลาย และแบ่งเวลาไปอยู่กับสิ่งๆนั่นครับ นอกจากนั้นอาจจะลองมองดูกิจกรรมที่สามารถทำเป็นประจำได้เช่น การออกลังกาย การฟังเพลง หรือการทำงานอดิเรกบางอย่าง ทานอาหารให้ครบหมู่ ออกไปทานของอร่อยๆบ้าง ซึ่งตรงนี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่มีส่วนช่วยให้ความรู้สึกเศร้าและความคิดด้านลบลดน้อยลงได้ คล้ายๆกับการพักฟื้นให้สภาพจิตใจของตนเองค่อยๆมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในระยะยาวครับ
สุดท้ายนี้หากรู้สึกว่าต้องการจะพูดคุยกับใครซักคนหนึ่งในเรื่องของอารมณ์ที่เกิดขึ้น สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุณจะสามารถโทรเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ซึ่ง ข้อเสียคืออาจจะต้องมีการรอสายที่นานในบางช่วงเวลาครับ แต่หากมีความคิดฆ่าตัวตายเข้ามามากๆ สิ่งแรกควรทำคือการพาตนเองไปยังโรงพยาบาลที่ใกล้เคียง หากว่าไม่สามารถทำได้ก็ควรจะต้องทำก็คือโทรติดต่อหาคนสนิทที่ไว้ใจได้ให้มาช่วยเหลือเนื่องจากคุณมีความคิดแบบนี้ หรือสามารถติดต่อไปที่สมาคมสะมาริตันส์ได้ที่เบอร์ 02-713-6793 เวลาทำการ 12:00-22:00 ซึ่งการบริการจะเป็นการให้คำปรึกษาผ่านโทรศัพท์เช่นเดียวกันครับ หรือสุดท้ายแล้วหากไม่สามารถติดต่อไปที่ทั้งสอง คุณสามารถติดต่อกู้ภัยฉุกเฉิน 1669 เพื่อให้นำตัวเราไปที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ครับ ขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาตรงนี้ไปนะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีค่ะ ดิฉันเป็นคนเครียดง่ายมากๆ เวลาเครียดก็จะร้องไห้ง่ายมาก คิดว่าหายไปจากโลกนี้ได้ก็คงดี แต่ไม่เคยทำร้ายตัวเองเลยค่ะ แค่มีภาพในหัวว่าตัวเองกระโดดสะพาน วิ่งให้รถชน แต่ไม่เคยอยากทำจริงๆ สักครั้ง เป็นอย่างนี้มา 2-3 ปีแล้ว ความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็แย่ลง รู้สึกเหมือนไม่มีใครอยากรับฟังเราเลยค่ะ เหมือนเราไม่มีใครเลยบนโลกใบนี้ เวลาที่บ้านพูดอะไรก็รู้สึกหงุดหงิด เวลาเขาเล่าปัญหาให้ฟังเราก็ไม่อยากได้ยินค่ะ จนมาช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมารู้สึกแย่ขึ้นค่ะ ร้องไห้ทุกวัน บางทีอยู่ข้างนอกที่คนเยอะๆ ก็กลั้นไม่อยู่ รู้สึกหงุดหงิดและโมโหใส่คนในครอบครัวตลอดเลยค่ะ บางครั้งที่เขาพูดอยู่เราเหมือนจะทนไม่ไหวแม้แต่วินาทีเดียว อยากจะกรีดร้องทำลายข้าวของ ได้แต่คิดว่า ไม่เห็นมีใครอยากรู้เลยว่าเราเป็นยังไงและทำไมทุกคนต้องเอาอารมณ์ของเขามาใส่ให้เราด้วย มันรู้สึกแย่มากเลยค่ะ ไม่ได้เกลียดเขาแต่ไม่อยากเจอไม่อยากคุยไม่อยากให้มาโดนตัว ตอนนี้ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ สิ่งที่เคยทำแล้วชอบมาตลอดก็ไไม่สามารถทำได้ดีเท่าเดิมอีกแล้ว ไม่อยากเจอใคร ไม่อยากต้องแกล้งทำเป็นไม่เป็นไร เริ่มอยากทำร้ายตัวเองค่ะ อยากทุบตี ทำให้ตัวเองเจ็บ แต่ไม่ได้อยากฆ่าตัวตาย ครอบครัวรู้ว่าเป็นแบบนี้เป็นๆ หายๆ มานานแล้ว แต่ตอนนี้ไม่อยากให้เขารู้ค่ะว่าอยากทำร้ายตัวเอง ดิฉันมีสติดี ร่างกายก็ปกติดีค่ะ ควรจะเข้าพบนักจิตวิทยาไหมคะ กลัวว่าไปแล้วก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น หรือเขาอาจจะไม่ได้เข้าใจเราจริงๆ แล้วจะแย่ลงกว่าเดิม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)