April 15, 2019 03:17
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
อาการคันช่องคลอด สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น ถ้ามีเยื่อบุบริเวณนั้นบวมแดง มีตุ่ม ก็เป็นสาเหตุของอาการคันได้ เช่น ตุ่มจาดชกผื่นเเพ้ ติดเชื้อ เช่น ตัวโลน เป็นต้น
หรือมีตกขาวปริมาณที่มากขึ้นร่วมด้วย อาจเกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด ร่วมกับการติดเชื้อที่อวัยวะเพศด้านนอกด้วย ทั้งนี้เกิดจากการติดเชื้อในช่องคลอด สามารถเกิดได้จากทั้ง เชื้อรา แบคทีเรีย
.....
เช่น
.....
การติดเชื้อราในช่องคลอด
จะมีตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ติดอยู่กับผนังช่องคลอดได้ ร่วมกับช่องคลอดเเดง คันช่องคลอด มีปวดเเสบได้
.....
โรคติดเชื้อในช่องคลอดชนิดหนึ่ง คือ Bacterial vaginosisครับ (เเบคทีเรียในช่องคลอดไม่สมดุล เชื้อชื่อ Gardernella vaginallis จึงเเบ่งตัวมากขึ้น)
...........
อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ตกขาวมีกลิ่นอับ (musty) หรือคาวปลา (fishy) มักมีกลิ่นรุนแรงภายหลังการร่วมเพศ ซึ่งเกิดจากการทําปฏิกิริยากับ อสุจิ ซึ่งมีฤทธิ์เป็นด่าง แล้ว
ปลดปล่อยกลิ่น ออกมา
ส่วนถ้าตกขาวขุ่นเขียวเหลืองๆ จะมีเลือดปนด้วยหรือไม่มี อาจเป็นการติดเชื้อเเบคทีเรียเช่นหนองใน หรือโปรโตซัวพวก Trichomonas
..........
การรักษาถ้าสงสัยเรื่องตกขาวติดเชื้อ คันช่องคลอดคือการรับประทานหรือสอดยาฆ่าเชื้อครับขึ้นกับว่าติดเชื้ออะไร เช่น ถ้าเเบคทีเรีย ส่วนใหญ่ให้ Metronidazole อาจปรึกษาเภสัชกรลองซื้อยาสอดมาใช้ก่อนก็ได้ครับ เเต่ถ้ามีไข้ มีปวดท้องน้อยร่วมด้วยเเสดงว่ามีการติดเชื้อถึงมดลูกเเล้วควรไปพบเเพทย์ทันทีครับ เพราะอาจต้องได้ยาฆ่าเชื้อทางเส้นเลือดหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อครับ
..........
ให้งดการสวนล้างช่องคลอด งดใส่กางเกงคับเเน่น อับชื้นครับ
ส่วนเรื่องปัสาาวะเเสบขัด เเนะนำให้พบเเพทย์ตรวจปัสสาวะครับ (ไปพร้อมกับตรวจเรื่องตกขาวเลย)
น่าจะเป็น กระเพาะปัสสาวะ หรือ ท่อปัสสาวะอักเสบร่วมด้วยครับ
อาการคือ
- ขณะถ่ายปัสสาวะ มีอาการแสบบริเวณปลายท่อปัสสาวะ หรือบริเวณปากช่องคลอด
- ถ้ามีภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบร่วมด้วย ก็จะมีอาการปัสสาวะบ่อยทั้งกลางวัน กลางคืน ปัสสาวะแสบ ปัสสาวะขัด กลั้นปัสสาวะไม่ได้ ปัสสาวะแล้วรู้สึกว่าไม่สุดต้องไปปัสสาวะอีกแม้เพิ่งปัสสาวะเสร็จ
- บางคนอาจจะมีอาการปวด หรือแสบบริเวณท้องน้อยร่วมด้วยทั้งตอนปวดและไม่ปวดปัสสาวะครับ
ปัจจัยเสี่ยง เช่น
1.มีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้ง และหลายครั้งในเวลาอันสั้น
2.ดื่มน้ำน้อย
3.กลั้นปัสสาวะนาน ๆบ่อยๆ
4.ผู้ที่เคยรับการผ่าตัด หรือการรักษาด้วยการฉายแสงบริเวณกระเพาะปัสสาวะและอวัยวะเพศมาก่อนครับ
......
การรักษา คือการรับประทานยาฆ่าเชื้อครับ
ร่วมกับ การป้องกันคือ
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน
- ดูแลความสะอาดบริเวณปลายท่อปัสสาวะและอวัยวะเพศ
- มีกิจกรรมทางเพศอย่างเหมาะสม โดยหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ควรไปปัสสาวะและทำความสะอาดบริเวณท่อปัสสาวะ รวมถึงอวัยวะเพศครับ
- ไม่ควรกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานเกินไปครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อวัยวะเพศมีตุ่มขึ้น เปนนูนๆเมื่อสัมผัสมีอาการเเสบคันร่วมด้วย และหลังจากสัมผัสเมื่อมาปัสสาวะรู้สึกเเสบ มีตกขาวไหลบ่อยและมีอาการคันมีกลิ่นคาว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)