November 20, 2018 20:47
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากอาการดังกล่าวนั้นเพิ่งเกิดมาไม่นานและมีความสัมพันธ์อย่างชัดเจนกับการที่ต้องแยกจากพ่อแม่มาก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นอาการ Homesick หรือ มีการปรับตัวกับความเครียดที่ผิดปกติครับ แต่อย่างไรก็ตามในกรณีนี้ก็ยังมีความจำเป็นต้องตรวจประเมินอาการแยกกับโรคซึมเศร้าอยู่ครับ
อาการของโรคซึมเศร้านั้นจะประกอบด้วยการมีอารมณ์เศร้าหดหู่หรือเบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไรต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์ร่วมกับมีอาการ
- นอนไม่หลับหรืออยากนอนมากขึ้น
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากขึ้น
- อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
- ไม่มีสมาธิ ความคิด ความจำแย่ลง
- คิดช้าทำช้าลงหรือกระสับกระส่ายมากขึ้น
- มีความคิดในแง่ลบ คิดโทษตัวเองบ่อยๆ หรือเห็นคุณค่าในตนเองลดลง
- เคยคิดหรือลงมือทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ถ้าหากมีอาการในลักษณะนี้หลายๆข้อ ร่วมกับอาการที่เป็นส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน การเรียน หรือความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ก็จะมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้นครับ
ในเบื้องต้นนั้นอาจลองประเมินความเสี่ยงของการเป็นโรคซึมเศร้าด้วยตัวเอง โดยการทำแบบทดสอบตามลิ้งค์นี้ก่อนได้ครับ
http://www.prdmh.com/แบบประเมินโรคซึมเศร้า-9-คำถาม-9q.html
ถ้าหากทำได้ตั้งแต่ 7 คะแนนขึ้นไปก็ถือว่ามีโอกาสที่จะเป็นโรคซึมเศร้าได้มากขึ้น
หมอแนะนำว่าควรหาเวลาไปพบจิตแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดก่อนครับ เพื่อที่จะได้ให้การรักษาหรือคำแนะนำที่เหมาะสมต่อไปได้
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
ฉัตรดนัย
ศรชัย
(นักจิตวิทยาการปรึกษา)
Rehabilitation in Mental Health & Addiction
สวัสดีครับ
Homesick เป็นอาการที่เกิดจากการที่คุณต้องย้ายถิ่นฐานที่อยู่ ต้องจากบุคคลในครอบครัวหรือสภาพแวดล้อมเดิมๆมาอยู่ในที่ใหม่ๆ ซึ่งตรงจุดนี้อาการที่เกิดขึ้นก็เรียกได้ว่าจะคล้ายๆกับอาการ Homesick นะครับ โดยอาการจะค่อนข้างแตกต่างกับโรคซึมเศร้าอยู่ซึ่งจากที่คุณหมอได้ให้ข้อมูลไว้ด้านบนจะเป็นอาการเบื้องต้นของโรคซึมเศร้าครับ
แต่จากที่เล่ามาก็ยังเห็นได้ว่าคุณยังสามารถไปเรียนและสนุกสนานกับเพื่อนๆได้อย่างเป็นปกติ แต่เมื่อกลับมาอยู่คนเดียวตรงนี้ก็จะทำให้คิดถึงบ้านและร้องไห้ขึ้นมา ซึ่งอารมณ์ตรงนี้อาจจะมาจากความไม่คุ้นเคย และความเหงาที่เมื่อก่อนกลับมาบ้านแล้วก็จะเจอกับคุณพ่อคุณแม่นะครับ
สิ่งสำคัญคือการดูแลตนเองครับ ในเรื่องของอาการ Homesick ตรงนี้คุณอาจจะลองเริ่มจากการโทรศัพท์กลับไปเพื่อคุยกับคุณพ่อคุณแม่ หรือ หากเป็นไปได้ก็ลองใช้ Video Call ก็จะช่วยทำให้มีการเห็นภาพกันอาจจะทำให้เกิดความรู้สึกใกล้ชิดมากขึ้นได้ครับ การหากิจกรรมทำหลังเลิกเรียน เช่นการออกกำลังกาย การทำกิจกรรมชมรมต่างๆ หรือการทำกิจกรรมอื่นๆกับเพื่อนๆหลังเลิกเรียนก็อาจจะสามารถช่วยบรรเทาอาการคิดถึงบ้านลงไปได้นะครับ การลองบอกเล่าความรู้สึกคิดถึงบ้านนี้ให้เพื่อนที่คุณสนิทและไว้ใจฟัง ก็อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความเศร้าลงไปได้นะครับ และอาจจะช่วยให้คุณได้รับกำลังใจจากพวกเขาได้ครับ
แต่หากรู้สึกว่าอาการเหล่านี้เริ่มมีผลกระทบต่อการไปเรียน การทำการบ้าน ก็สามารถเข้าพบกับแพทย์เพื่อรับการประเมินและช่วยปรับในเรื่องของอารมณ์ได้นะครับ หากมีข้อคำถามอื่นๆก็สามารถถามมาได้นะครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เพื่อป้องกันการสับสนในข้อมูลหมอขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจที่มากขึ้นนะครับ
จากอาการในข้างต้นนั้นในตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ครับว่าจะเป็นอาการของโรคซึมเศร้าหรือ Homesick จนกว่าจะได้มีการประเมินอาการกับแพทย์โดยตรงครับ
แต่จุดที่สำคัญคือต้องลองสำรวจตัวเองดูครับว่าอาการดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อการเรียน การใช้ชีวิตในด้านต่างๆของคุณหรือไม่ ถึงแม้ที่โรงเรียนจะยังสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ถ้าหากกลับบ้านมาแล้วกลับเป็นช่วงที่มีอารมณ์ตก มีอารมณ์เศร้าเกิดขึ้นจนไม่เป็นอันต้องทำอะไร ก็ยังอาจเป็นอาการที่เป็นปัญหาได้อยู่ครับ
นอกจากนี้ก็ควรมีการสำรวจตัวเองเกี่ยวกับอาการต่างๆของโรคซึมเศร้าด้วยถ้าหากมีอาการที่อาจเข้าได้กับโรคซึมเศร้าหลายๆข้อก็จะยังมีความจำเป็นต้องเข้าพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการครับ เพราะถ้าหากเป็นโรคซึมเศร้าการได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า แต่ถ้าหากเป็นเพียงอาการ Homesick การดูแลตัวเองตามที่คุณนักจิตวิทยาได้แนะนำไว้และช่วงเวลาที่ผ่านไปก็จะช่วยให้การปรับตัวดีขึ้นและอาการมักจะดีขึ้นได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาช่วยครับ
โดยสรุปคือหมอแนะนำให้หากิจกรรมที่ผ่อนคลายให้ตัวเองได้ทำ หาเพื่อนคุย โทรคุยกับพ่อแม่บ้าง เพื่อให้อารมณ์ต่างๆของตนเองดีขึ้นครับ แต่ถ้าหากการทำสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ หรืออาการที่เป็นเริ่มส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตในด้านต่างๆก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมครับ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นโรควึมเศร้าหรือไม่ ทางจิตแพทย์ก็จะสามารถช่วยเหลือให้อารมณ์ต่างๆดีขึ้นได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
เพื่อป้องกันการสับสนในข้อมูลหมอขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมเพื่อเสริมความเข้าใจที่มากขึ้นนะครับ
จากอาการในข้างต้นนั้นในตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ครับว่าจะเป็นอาการของโรคซึมเศร้าหรือ Homesick จนกว่าจะได้มีการประเมินอาการกับแพทย์โดยตรงครับ
แต่จุดที่สำคัญคือต้องลองสำรวจตัวเองดูครับว่าอาการดังกล่าวนั้นส่งผลกระทบต่อการเรียน การใช้ชีวิตในด้านต่างๆของคุณหรือไม่ ถึงแม้ที่โรงเรียนจะยังสามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ถ้าหากกลับบ้านมาแล้วกลับเป็นช่วงที่มีอารมณ์ตก มีอารมณ์เศร้าเกิดขึ้นจนไม่เป็นอันต้องทำอะไร ก็ยังอาจเป็นอาการที่เป็นปัญหาได้อยู่ครับ
นอกจากนี้ก็ควรมีการสำรวจตัวเองเกี่ยวกับอาการต่างๆของโรคซึมเศร้าด้วยถ้าหากมีอาการที่อาจเข้าได้กับโรคซึมเศร้าหลายๆข้อก็จะยังมีความจำเป็นต้องเข้าพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการครับ เพราะถ้าหากเป็นโรคซึมเศร้าการได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆจะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า แต่ถ้าหากเป็นเพียงอาการ Homesick การดูแลตัวเองตามที่คุณนักจิตวิทยาได้แนะนำไว้และช่วงเวลาที่ผ่านไปก็จะช่วยให้การปรับตัวดีขึ้นและอาการมักจะดีขึ้นได้เองโดยไม่จำเป็นต้องใช้ยาช่วยครับ
โดยสรุปคือหมอแนะนำให้หากิจกรรมที่ผ่อนคลายให้ตัวเองได้ทำ หาเพื่อนคุย โทรคุยกับพ่อแม่บ้าง เพื่อให้อารมณ์ต่างๆของตนเองดีขึ้นครับ แต่ถ้าหากการทำสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นได้ หรืออาการที่เป็นเริ่มส่งผลรบกวนการใช้ชีวิตในด้านต่างๆก็แนะนำให้ไปพบจิตแพทย์เพื่อประเมินอาการเพิ่มเติมครับ ไม่ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นโรควึมเศร้าหรือไม่ ทางจิตแพทย์ก็จะสามารถช่วยเหลือให้อารมณ์ต่างๆดีขึ้นได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
เบื้องต้นลองสำรวจอาการด้วยการทำแบบประเมินซึมเศร้าด้วยตัวเองดูก่อนนะคะ โดยในช่วงระยะเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้มีอาการเหล่านี้มากน้อยแค่ไหน
ไม่มีเลย 0 คะแนน
มี 1-7 วัน 1 คะแนน
≥7 วัน 2 คะแนน
ทุกวัน 3 คะแนน
1. เบื่อหน่าย ไม่สนใจอยากจะทำอะไร
2. ไม่สบายใจ ซึมเศร้า ท้อแท้
3. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
4. หลับยาก หลับๆตื่นๆ หรือหลับมากเกินไป
5. เหนื่อยง่าย ไม่ค่อยมีแรง อ่อนเพลีย
6. เบื่ออาหาร หรือ กินได้มาก กินจุบจิบตลอดเวลา
7. รู้สึกไม่ดีกับตัวเอง คิดว่าล้มเหลว หรือคิดว่าทำให้ตนเองและครอบครัวผิดหวัง
8. ขาดสมาธิ เหม่อลอย ขี้ลืมบ่อย
9. ทำอะไรช้าลง กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้
10. คิดทำร้ายตัวเอง อยากตาย หรือตายไปจะดีกว่า
จากนั้นรวมคะแนน หากได้มากกว่า 7 คะแนนขึ้นไป แนะนำให้พบจิตแพทย์ ประเมินอาการเพิ่มเติม แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม การรักษาที่ถูกต้องตามแนวทางโรคจะช่วยให้อาการดีขึ้น ปรับตัวได้มากขึ้น ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอีกครั้งนะคะ
แต่หากประเมินแล้วคะแนนต่ำกว่า 7 คะแนน ก้อาจเป็นอารมณ์เศร้าที่เกิดจากความเหงา ในกรณีนี้แนะนำให้จัดการอารมณ์เศร้า เหงา ด้วยการโทรหาแม่ หาเพื่อนที่ไว้ใจปรึกษาหรือพูดคุย ออกกำลังกาย หรือหากิจกรรมอื่นๆทำให้เพลิดเพลิน ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
คุณหมอคะหนูมีอาการอยากกลับบ้าน คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ ตอนเย็นจะรู้สึกแบบนี้แบ้วก็ร้องไห้ทุกวันเลยคะประมาณ2-3อาทิตย์แล้วคะตอนกลางวันเวลาหนูไปเรียนหนูมีอาการปกติทุกอย่างคือร่าเริง สดใสหัวเราะกลับเพื่อนปกติ พอตอนเย็นก็มีอาการแบบที่หนูบอก หนูอยากปรึกษาว่าอาการที่หนูเป็นคือเป็น homesick ปกติหรือว่าเริ่มมีอาการเป็นโรคซึมเศร้าหรือเปล่าคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)