หมอค่ะ เมือเดือนที่แล้วแฟนบอกให้หนูช่วยให้เค้าทำให้เสร็จ แต่พอเสร็จแล้วเค้าก็หลั่งออกมา แล้วเค้าก็มาทำให้เค้าโดยใช้นิ้วนะคะ แต่ไม่แน่ใจว่ามือเค้าโดน น้ำของเค้าหรือป่าว หนูก็เลยไม่ได้ทำอะไรก็เลยปล่อย หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ เค้าก็ให้เราช่วยอีก แล้วเค้าก็ช่วยแล้วนิ้วอีกเหมือนเดิมค่ะ แต่คราวนี้เหมือนมือเค้าจะโดนน้ำแต่เค้าบอกเค้าเช็ดมือแล้ว เราก็เลยไม่อะไรค่ะ พอมาอีก 1 อาทิตย์เรามีพศพ กันค่ะ แต่ไม่ปกกัน หลั่งนอก ครั้งนี้หนูซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานค่ะ พอทานไปแล้ว 3 วันครบรอบวันนี้ ปจด จะมาค่ะ ก็ไม่มา พอทานยาครบ 1 อาทิตย์ เค้าก็มีพศพ กันอีกค่ะ ไม่ปกกัน แต่หลั่งนอกนะคะ ปจด ก็ยังไม่มา ตอนนี้เลื่อนจากวันครบรอบมา 4-5 วันแล้วค่ะ แล้วครั้งนี้ควรทานยาคุ้มฉุกเฉินมั้ยคะ เพราะถ้าทานอีก ก็จะเป็น ทานติดต่อกัน อาทิตย์ละครั้ง 2 อาทิตย์ค่ะ

สวัสดีครับ จากที่เล่ามาไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ครับ ไม่ว่าจะใช้นิ้วที่เปื้อนอสุจิ หรือสำเร็จความใคร่บนตัวครับ

สำหรับการจะตั้งครรภ์ได้คือ มีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในอวัยวะเพศหญิง และมีการสำเร็จความใคร่ภายในเพศหญิงครับ ถึงจะตั้งครรภ์ได้ครับ

สวัสดีครับ
เบื้องต้นหากมีประวัติมีเพศสัมพันธ์ในรอบเดือนที่ผ่านมาแล้วขาดประจำเดือน สงสัยว่าตั้งครรภ์ สามารถหาซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบได้ด้วยตนเองครับ และแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ก่อนจะทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ

สวัสดีครับ
1. การมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้นิ้วนั้นจะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ยากมาก เนื่องจากถึงแม้นิ้วจะมีการเปื้อนอสุจิอยู่ อสุจิที่ออกมาสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอกแล้วก็จะมีการเสื่อมสภาพไปในเวลาอันรวดเร็วครับ

2. การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นอาจมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27% ครับ

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดอีกครั้งก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ

3. หลังจากนี้หมอแนะนำให้งดการมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนและให้รอลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

ควรรับประทานค่ะ เพราะ การหลั่งนอก ไม่ใช่วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพค่ะ เนื่องจากพลาดได้สูง และ อาจพบตัวอสุจิในน้ำหล่อลื่นที่ออกมาก่อนการหลั่งได้

อย่างไรก็ตาม คราวหน้า ก่อนมี ควรป้องกันด้วยวิธีอื่นที่ดีกว่านี้แล้วค่ะ

เนื่องจาก ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%

เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น

ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่

และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ

อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ

สวัสดีค่ะ
กรณีใช้นิ้วนั้น ไม่สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้ค่ะ
แต่การสอดใส่ แม้หลั่งนอก แต่ไม่ได้ป้องกันใดๆ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ค่ะ
ดังนั้น หากไม่ได้ป้องกัน ควรรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉิน เพื่อลดโอกาสในการตั้งครรภ์ค่ะ
โดยยาคุมฉุกเฉิน เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพน้อย สามารถทานได้ไม่จำกัดจำนวนครั้งค่ะ
ผลข้างเคียงจากการทานยาคุมฉุกเฉิน มีผลทำให้เลือดออกกะปริดกระปอยได้เล็กน้อยค่ะ จึงทำให้สับสนกับเลือดประจำเดือนค่ะ

แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ ซึ่งจะตรวจได้เองหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 14 วัน จึงจะแปลผลน่าเชื่อถือค่ะ

*****ทั้งนี้หากยังไม่พร้อมตั้งครรภ์ แนะนำการคุมกำเนิดโดยวิธีการทานยาคุมรายเดือน การใส่ห่วง การสวมถุงยางอนามัย การฉีดยาคุมกำเนิด และการฝังยาคุมกำเนิด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ควรศึกษาถึงข้อดีข้อเสีย วิธีการใช้อย่างถูกต้อง และความเหมาะสมของตนเอง เพื่อการคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ ****

สวัสค่ะ
กรณีที่ใช้นิ้วมือไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ค่ะ ส่วนกรณีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วหลั่งนอกมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4-22% ค่ะ และการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันเป็นวิธีที่ถูกต้องแล้วค่ะ โดยให้ทานไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรืออย่างช้า 120 ชั่วโมงค่ะ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85%ค่ะ ยิ่งทานเร็วประสิทธิภาพก็มาก กรณีประจำเดือนเลื่อนหรือมาไม่ตรงรอบอาจเกิดจากผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิดฉุกเฉินได้ หรือ อาจเกิดจากการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นถ้าผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วอย่างน้อย 14 วันแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ โดยตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ กรณีมีเพศสัมพันธ์กันอีกโดยไม่ได้ป้องกันก็ต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอีกค่ะโดยไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าทานติดต่อกันบ่อย อย่างไรก็ตามถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไปแนะนำคุมด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน แบบฉีด แบบฝัง เป็นต้นค่ะ ยาคุมฉุกเฉินมีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยแตก หรือลืมทานยาคุมแบบรายเดือน ไม่ควรใช้คุมกำเนิดเป็นประจำค่ะ