กินยาคุมฉุกเฉินเเบบ1เม็ดหลังจากมีอะไรกับเเฟน1วัน (ไม่หลั่งใน)หลังจากนั้นอีก6วันเเฟนมีเลือดออกเหมือนประจําเดือน เเต่ออกเยอะกว่าปกติ(เยอะมาก) จะเป็นอะไรไหมครับ

อาจเป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ หากยังมีเบือดออกมากเป็นเวบาหลายวัน ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ เช่น เนื้องอกที่มดลูกและรังไข่ เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน เป็นต้นครับ
และคนไข้ควรรอประจำเดือนรอบปกติมาหากมาช้ากว่าปกติเกิน7วัน ควรตรวจการตั้งครรภ์ครับ

สวัสดีครับ
หลังการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นอาจมีผลข้างเคียงทำให้มีเลือดออกผิดปกติเกิดขึ้นได้แต่จะเป็นเลือดออกกระปริดกระปรอยเท่านั้น ในขณะที่ประจำเดือนนั้นมักจะยังมาใกล้เคียงกับกำหนดตามปกติและมีลักษณะใกล้เคียงกับปกติอยู่ครับ

ถ้าหากเลือดที่ออกมานั้นออกมาในปริมาณมากเกินไปก็อาจมีความผิดปกติบางอย่างที่เป็นสาเหตุได้ครับ เช่น
- มีฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- มีการอักเสบติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดปกติ
- การมีเนื้องอกบางอย่าง
- การแข็งตัวของเลือดที่ผิดปกติ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เพื่อที่จะได้ให้การรักษาได้อย่างเหมาะสมครับ

สวัสดีค่ะ
โดยปกติ การรับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน120ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ไกลด้ประมาน 95%
และสามารถมีผลข้างเคียงจากการรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้คือ เลือดออกกระปริบกระปรอยทางช่องคลอด

สำหรับการที่มีเบือดออกทางช่องคลอดมากผิดปกติ อาจเกิดได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น

-การฉีกขาดของช่องคลอด ตากการมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง
-การแท้งบุตร
-การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน
-เนื้องอก หรือ มะเร็งในโพรงมดลูก

แนะนำให้รีบไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อทำการตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งค่ะ

ให้พิจารณาว่าเลือดนั้นน่าจะเป็นประจำเดือนหรือไม่นะคะ

ซึ่งถ้าไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่กี่วันค่ะ (เร็วหรือช้าก็ได้) โดยลักษณะของประจำเดือนปกติ ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยา เป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร

ถ้าเลือดนั้นเป็นประจำเดือน ก็หมายถึงแฟนของผู้ถามไม่มีการตั้งครรภ์แล้วค่ะ

แต่ถ้าเลือดนั้นไม่ใช่ประจำเดือน ก็ยังสรุปไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ โดยถือว่ายังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉิน

ซึ่งในกรณีที่ไม่มีประจำเดือนมา หรือหากไม่มั่นใจ และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ

และครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ ถ้าแฟนของผู้ถามไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ ผู้ถามควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งนะคะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล

ไม่ควรใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำอย่างการหลั่งนอก หรือการรับประทานยาคุมฉุกเฉินแทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เพราะเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จ และอาจตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นค่ะ