March 29, 2019 08:28
ตอบโดย
วิภา สุวรรณชีวะศิริ (พญ.)
สวัสดีค่ะ ผื่นคันตามตัวหรือขาหนีบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ สองสาเหตุหลัก ๆ คือ
1. ผิวหนังอักเสบ
2. ผิวหนังติดเชื้อ จากเชื้อรา
ในกรณีแรก หากเป็นผิวหนังอักเสบ คือ โรคผิวหนังที่เกิดการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งเกิดจากสาเหตุหลายประการทั้งจากภายในร่างกาย และภายนอกร่างกาย ทำให้มีการอักเสบที่ผิวหนังชั้นนอก ผิวหนังจะมีผื่น บวมแดง มีตุ่มน้ำใส หรือน้ำเหลืองเยิ้ม และมีสะเก็ด และมีอาการคันเป็นอาการสำคัญ เรียกว่าเป็นการอักเสบระยะเฉียบพลัน หากไม่รักษาปล่อยไว้เรื้อรังจะพบว่าผื่นประกอบไปด้วยตุ่มแดง มีขุย รอยเกาเป็นทางผิวหนาตัวขึ้น ซึ่งอาจจะเป็น ๆ หาย ๆ หากผิวหนังได้รับการกระตุ้นต่อสารก่อแพ้
การรักษาโรคแพ้ผื่นคันผิวหนังอักเสบ
-ค้นหาสาเหตุและป้องกัน
-รักษาตามอาการและป้องกันโรคแทรกซ้อน
-เข้าใจถึงการดำเนินของโรค และรักษาจนโรคหาย
- รักษาด้วย ยาทาสเตียรอยด์ เพื่อลดการอักเสบ
ในกรณีที่สอง ผิวหนังติดเชื้อรา การติดโรคเกิดจากการได้รับเชื้อจากการสัมผัส และมีปัจจัยเรื่องผิวหนังที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อปรกติเราจะพบเชื้อราได้ตามสิ่งแวดล้อม หากมีปัจจัยการติดเชื้อพร้อมเช่น มีการได้รับเชื้อ และผิวหนังมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงก็จะทำให้มีการติดเชื้อราขึ้นผิวจะคันและมีขุย การรักษาทำให้หายขาดด้วย การทาหรือรับประทานยาฆ่าเชื้อรา
ดังนั้นแนะนำว่าควรไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อายุ20 เพศชาย มีอาการคันบริเวณขาหนีบและไข่ คันมาก เกาแล้วก็แดงแสบๆ เป็นมา2อาทิตย์แล้ว พยายามอาบน้ำถูสบู่ตรงนี้เผื่อให้หาย ก็ยังไม่หาย เป็นโรคอะไรครับ แล้วมียาทาหรือกินตัวไหนแนะนำไหมครับ อันนี้คือรูปพึ่งถ่ายครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)