August 21, 2019 00:24
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ซึมเศร้ามีสาเหตุหลักจากสารเคมีในสมองหลั่งผิดปกติ ทำให้การรับรู้ ความคิด การแสดงออกทางอารมณ์และพฤติกรรมผิดปกติไปจากเดิม หากเจอปัญหาหรือมีเหตุการณ์กระทบกระเทือนจิตใจ จะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น และหากรักษาไม่ต่อเนื่อง หรือ หยุดยาเองกระทันหัน ตัวโรคจะเรื้อรัง และอาจกลับมาเป็นซ้ำได้ค่ะ
อาการของโรคซึมเศร้า จะมีอาการต่อไปนี้อย่างน้อย 7 ข้อ ต่อเนื่องเกือบทุกวัน นานเกิน 2 สัปดาห์
1.เบื่อหน่าย ไม่มีความสุข
2.ท้อแท้ เศร้า
3.อ่อนเพลีย
4.นอนไม่หลับ/หลับมากเกินปกติ
5.เบื่ออาหาร/ทานได้เยอะกว่าปกติ
6.ขาดสมาธิ
7.หงุดหงิดง่าย
8.ขี้น้อยใจ รู้สึกไร้ค่า
9.อยากตาย /อยากทำร้ายตัวเอง
หากมีอาการเข้าข่ายซึมเศร้าควรพบจิตแพทย์ทันที ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม
การรักษาซึมเศร้าที่ได้ผลดี คือการรักษาด้วยยา ยาจะช่วยปรับสมดุลสารเคมีในสมอง ทำให้ควบคุมความคิดอารมณ์และพฤติกรรมต่างๆได้เหมาะสม ร่วมกับการทำจิตบำบัด จะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจทำให้ปรับตัวต่อปัญหาต่างๆได้ดีขึ้นค่ะ
ในระหว่างทำการรักษา ควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่หยุดยาเอง หมั่นออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ งดสารเสพติดทุกชนิด และไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งจะช่วยให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้นนะคะ
การที่คุณมีมุมมองหรือประสบการณ์ที่ไม่ดีต่อจิตแพทย์ท่านนั้น คุณมีสิทธิ์ที่จะไปรับบริการกับจิตแพทย์ท่านอื่นก็ได้นะคะ แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงเรื่องสิทธิ์การรักษา ความสะดวกในการเดินทางที่ต้องไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งด้วย นะคะ
พี่เชื่อว่าจิตแพทย์ท่านไม่ได้มีเจตนาที่จะต่อว่าผู้ป่วยนะคะ ซึ่งอาจเป็นการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา เพื่อให้ผู้ป่วยได้เข้าใจและตระหนักในปัญหาของตน เกิดแรงจูงใจที่จะรับการรักษาต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยเองนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ จะหาเวลาเพื่อไปรักษาต่อไปค่ะ ^^
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรักษาโรคซึมเศร้านั้นจำเป็นต้องมีการรักษาด้วยการรับประทานยาอย่างต่อเนื่องและในช่วงแรกๆของการรักษาก็มักจะต้องมีการติดตามอาการค่อนข้างถี่เพื่อมีการประเมินอาการอย่างใกล้ชิดและต้องปรับยาในช่วงแรกครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรกลับไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการอีกครก่อนเพื่อที่จะได้เริ่มการรักษาใหม่อย่างเหมาะสมครับ การกลับไปรับประทานยาด้วยตัวเองนั้นอาจทำให้เกิดการรักษาที่ไม่เหมาะสมหรือมีการรักษาที่ไม่ต่อเนื่องเกิดขึ้นได้ และในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแพทย์ใหม่ก็เป็นสิทธิ์ของผู้ป่วยที่สามารถทำได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ขอบพระคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ คิดว่าน่าจะต้องเปลี่ยนแพทย์จริงๆ ค่ะ ยังไงจะหาเวลาเพื่อไปรักษาอีกครั้งค่ะ ^^
สวัสดีค่ะ รบกวนสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการทานยา FLUOXETINE CAP 20mg ค่ะ เนื่องด้วยเมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว ได้ไปพบแพทย์เพื่อรักษาในส่วนของภาวะซึมเศร้า และได้ยานี้มาทั้งหมด 21 เม็ดค่ะ ทานไป 6 วัน แล้วก็หยุดทานไป เนื่องจากว่าไม่มีสมาธิทำงานค่ะ ในส่วนของอาการก็พอทรงตัวไม่ได้แย่ลง เลยไม่ได้ทานยาต่อ แต่ตอนนี้เหมือนว่าอาการจะแย่ลงอีกครั้ง อยากทราบว่าจะสามารถทานยาต่อจากที่เหลืออยู่ได้มั้ยคะ **เพิ่มเติมข้อมูลในการรักษาค่ะ ทางแพทย์เจ้าของเคสได้มีการนัดตรวจเพื่อติดตามอาการอีก 3 อาทิตย์ ถัดมาหลังจากที่เข้ารักษาครั้งแรก แต่ไม่ได้ไปตามนัดค่ะ เนื่องจากตอนที่ไปรักษา เรียกว่าเป็นประสบการณ์พบจิตแพทย์ที่ค่อนข้างแย่ค่ะ แพทย์เจ้าของเคสพูดแต่ในมุมของตัวเองและไม่ได้รับฟังอะไรค่ะ (เหมือนไปนั่งให้หมอต่อว่าเราประมาณนั้นค่ะ) ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นสไตล์การรักษาของแพทย์ท่านนั้นรึเปล่านะคะ ประโยคที่พูดให้เราฟัง ทำให้รู้สึกอาการหนักกว่าเดิมค่ะ เลยทำให้ตัวเราค่อนข้างกลัวในการไปพบแพทย์อีก เพราะกลัวว่าจะอาการหนักขึ้น คิดว่าอาจจะต้องย้ายรพ. หรือเปลี่ยนแพทย์ในการรักษา แต่เนื่องด้วยตอนนี้ตารางงานค่อนข้างแน่นเลยยังไม่มีเวลาที่จะไปพบแพทย์ค่ะ แต่อยากทราบแนวทางในตอนนี้ว่า พอจะทานยาต่อไปก่อนได้มั้ยคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ ^^
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)